ทส. คุมเข้มฝ่าวิกฤติ เน้นย้ำ 4 จังหวัดภาคเหนือ จุด Hotspot ต้องลดลง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุมเข้มเฝ้าระวังสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า เน้นย้ำ 4 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา และแม่ฮ่องสอน จุด Hotspot ต้องลดลง
วันนี้ (26 มีนาคม 2563) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงฯ และ กองทัพภาคที่ 3 โดยมีนายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ตลอดจนผู้บริหารระดับสูง และ เจ้าหน้าที่ ทส. ร่วมประชุม ที่ศูนย์ติดตามแก้ไขปัญหาพิบัติภัย (ไฟป่าและหมอกควัน) ชั้น 17 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากความห่วงใยของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้มี Video Conference ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เนื่องจากพบว่าจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมีค่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา และแม่ฮ่องสอน
ในการนี้ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้นายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ศูนย์ส่วนหน้า ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนธิกำลังทุกภาคส่วนร่วมติดตามเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า พร้อมทั้งร่วมสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนถึงผลกระทบที่เกิดจากการเผา และได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวง ฯ ลงพื้นที่ไปกำกับการปฏิบัติงานในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(จังหวัดเชียงราย) นายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (จังหวัดพะเยา) นายสุรชัย อจลบุญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) และ นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นอกจากนี้ ให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และ หน่วยงานในพื้นที่ให้การสนับสนุนและช่วยประสานงานด้วย ส่วนในจังหวัดอื่น ๆ ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ดำเนินการติดตามกำกับดูแลและรายงานสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าอย่างต่อเนื่อง
ด้านปัญหาหมอกควันข้ามแดน กระทรวงฯ ได้ประสานเพื่อขอความร่วมมือควบคุมการเผาไปยังสำนักงานเลขาธิการอาเซียนเพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ร่วมกัน
สำหรับเรื่องการเผาไหม้ของบ่อขยะ ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ สำรวจบ่อขยะที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะในจังหวัดลำปาง และ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้มีการเฝ้าระวังและอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ฝากความห่วงใยไปยังประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน ขอให้ดูแลรักษาสุขภาพ ปฏิบัติตามเงื่อนไขกระทรวงสาธารณสุข และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ทั้งนี้ ในวันที่ 27 มีนาคม 2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อีกด้วย.
แหล่งข่าวจาก – ข่าวบ้านเมือง