ผู้ว่าฯแพร่ย้ายด่วนปลัดอำเภอ ถูกร้องทุจริตเก็บเปอร์เซ็นงบตำบลละ5ล้าน
ผู้ว่าฯแพร่ย้ายด่วนปลัดอำเภอ ถูกร้องทุจริตเก็บเปอร์เซ็นงบตำบลละ5ล้าน
แก๊งมหาดไทยเรียก700,000 บาท กินเปล่า ชุมชนเดือนร้านผู้ใหญ่บ้านเดินหน้าแฉ พ่อเมืองเด้งปลัดอาวุโสวังชิ้น ส่งกลิ่นเรียกเงินงบ 5 ล้าน ย่ามใจลามเรียกเก็บโครงการตำบลละสองแสนอีกร้อยละ 5
โครงการอุดหนุนเงินพัฒนาไปยังตำบลโดยให้ชุมชนได้ร่วมกันแก้ปัญหาหรือพัฒนาได้ด้วยตนเอง โดยผ่านกระทรวงมหาดไทย ในจังหวัดแพร่พบมีกระแสมาอย่างต่อเนื่อง ในการเรียกหัวคิวจากผู้นำชุมชนและผู้รับเหมา ล่าสุดวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มีคำสั่งที่ 2728/2559 อาศัยอำนาจความตามมาตร 54 และ 57 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 7 พ.ศ. 2550 ให้นายชูชาติ คำมา ปลัดอำเภออาวุโสวังชิ้น จ.แพร่ ช่วยราชการกลุ่มงานปกครอง ที่ทำการปกครองจังหวัดแพร่ โดยนายพิเชษฐ ได้ทำหนังสือแจ้งให้นายอำเภอวังชิ้นทราบในวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ วันที่ 3 กันยายน ว่า การมีคำสั่งย้ายด่วนภายใน 24 ชั่วโมงดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจาก พบว่ามีการร้องเรียนจากผู้นำชุมชนว่ามีการเรียกเก็บเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตำบลละ 5 ล้านบาท ในอัตราร้อยละ 2 จากผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านร่วมเป็นเงินทั้งอำเภอจำนวน 700,000 บาท การเรียกเก็บดังกล่าวเป็นความเดือดร้อนของผู้นำชุมชนที่ต้องรับผิดชอบโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นแผนการทำงานที่มาจากประชาคมซึ่งอาจต้องใช้เงินมากกว่างบที่ได้จากโครงการแต่ถ้าถูกตัดไปก็จะเกิดความเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าที่ประชาชนต้องการ และมีประชาชนทั้งหมู่บ้านตรวจสอบ
กระแสข่าวในอำเภอวังชิ้นแจ้งว่า โครงการดังกล่าวปัจจุบันมีการจ่ายเงินแล้วและมีการเรียกเก็บ โดยทางปลัดอำเภอได้ขอให้จ่ายทุกโครงการที่อยู่ในหมู่บ้าน เป็นคำสั่งผ่านกำนันทุกตำบล และปลัดอำเภอยังได้กล่าวในที่ประชุมผู้ใหญ่บ้านด้วยว่าต้องเก็บนำไปให้พนักงานทำบัญชีที่จ้างมาพิเศษ
ในอำเภอวังชิ้นมีอยู่จำนวน 7 ตำบล ได้รับงบประมาณตำบลละ 5,000,000 บาท การเรียกเก็บจะได้ตำบลละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 700,000 บาท ก่อนการเบิกจ่าย นายชูชาติ คำมา ปลัดอำเภอมีพฤติกรรมเรียกผู้นำหมู่บ้านไปที่ทำการอำเภอเป็นการส่วนตัวแล้วเรียกเก็บ และถ้าผู้ใหญ่บ้านรายใดที่ยังไม่จ่ายตามเป้าจะมีการทวงและข่มขู่ตลอด การข่มขู่ที่ผู้ใหญ่บ้านกลัวมากคือการเกษียณของนายอำเภอในเดือนกันยายนนี้ ปลัดอาวุโสจะทำหน้าที่รักษาการณ์ จะใช้อำนาจที่มีอยู่เล่นงาน
การเรียกเก็บดังกล่าวมีการอ้างว่า นำไปใช้ในการว่าจ้างพนักงานชั่วคราว และ นำไปจ่ายให้ทหารที่ดูแลอำเภอวังชิ้นอยู่ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านเหล่านี้ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง ม.พัน 12 ค่ายพระยาไชยบูลย์ อ.เด่นชัย แล้วแต่ทางฝ่ายทหารนิ่งเฉย ไม่เข้ามาแก้ปัญหาเหมือนเรื่องอื่นๆ
ผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งในอำเภอวังชิ้น กล่าวว่า การเรียกเก็บดังกล่าวนำไปให้พนักงานลูกจ้างชั่วคราวและทหารไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะลูกจ้างชั่วคราวที่มาตามระเบียบราชการจะต้องมีงบประมาณค่าจ้างอยู่แล้วได้มีการสอบถามกับนางสาวอิ๋ว (นามสมมุติ) ว่าได้รับเงินจากปลัดหรือไม่ ซึ่งได้คำตอบว่าได้แต่เงินเดือนและเรื่องของทหารยังเป็นที่สงสัยเพราะได้ร้องเรียนไปแต่นิ่งเฉย ในขณะนี้การเรียกเก็บทำให้มีปัญหาในโครงการเกิดขึ้นแล้ว ในหมู่ที่ 2 หมู่ 3 หมู่ 7 หมู่ 9 และ หมู่ 11 ต.วังชิ้น ส่วนที่ตำบลสรอยก็เกิดปัญหาเช่นกันแต่ไม่มีการร้องเรียนเพียงเกิดความขัดแย้งขึ้นในชุมชน รวมถึงตำบลอื่นๆ ทุกตำบลมีปัญหามากแต่ไม่กล้าร้องเรียน โดยผู้ใหญ่บ้านได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วครั้งหนึ่งในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาต้องการให้ทางราชการตรวจสอบอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โครงการที่ลงไปยังหมู่บ้านอีกของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 200,000 บาท ต่อหมู่บ้าน ปลัดคนดังกล่าวได้เรียกเก็บอีกร้อยละ 5 ต่อหมู่บ้าน ซึ่งการเรียกเก็บโครงการนี้ยังไม่บรรลุผลและมีผู้ใหญ่บ้านจำนวนมากไม่ยินยอม
ทางนายชูชาติ คำมา ยังไม่ให้ข้อมูลใดใดต่อสื่อมวลชน โดยอ้างว่ายังอยู่ในระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง ขอให้ดูตามผลของการสอบสวนไม่ควรกล่าวหากันลอยๆ และเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่แล้ว
นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนได้กำชับเสมอมาตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อต้นปี ได้เรียกประชุมผู้ใหญ่บ้านกำนันและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง แต่เหตุการณ์ครั้งมีการร้องเรียนเข้ามาจึงได้ออกคำสั่งให้ปลัดอำเภอที่เป็นผู้ต้องสงสัยออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อให้สะดวกในการตั้งกรรมการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งทางจังหวัดแพร่จะหาข้อยุติโดยเร็วถ้ามีมูลจริง ก็คงมีคำสั่งไปตามกฎหมายต่อไป
ที่มา matichon
แหล่งข่าวจาก http://news.tlcthai.com/news/752984.html