สาวปลอมบัญชี “บิณฑ์” บริจาคช่วยน้ำท่วม กราบขอโทษทั้งน้ำตา ต่อหน้าชาวอุบลฯ ยืนยันแต่โพสต์เล่นๆ กระจายไป 10 กว่ากรุ๊ป ไม่มีเจตนาเอาเงินใครจริงๆ
“เบส” สาวปลอมบัญชีร้องไห้ปล่อยโฮ กราบขอโทษ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์“ ต่อหน้าชาวอุบลฯ ยืนยันแค่โพสต์เล่นออกไป 10 กลุ่ม ไม่ได้หวังเงินบริจาคใด พร้อมกับตัดพ้อตอนนี้สูญเสียทุกอย่าง ฝ่ายบิณฑ์ยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ก็ยอมถอนแจ้งความ เพราะไม่อยากให้เป็นเวรกรรมต่อกัน ขณะที่แม่ผู้ก่อเหตุร่ำไห้ เสียใจไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนี้ พร้อมเปิดใจผ่านรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 ทางช่อง 28
“ตั้งแต่เริ่มแรก เบสเห็นการรับบริจาคน้ำท่วม เอาบัญชีไปแปะใส่ แล้วโพสต์ลงกลุ่มแต่ไม่ได้ตั้งใจ กะว่าโพสต์เล่นๆ ไม่ได้จริงจัง แต่พอโพสต์สักพักก็ลบ แต่เขาแชร์ไปไวมาก โดยหนูเป็นคนทำเองค่ะ ไม่มีใครเกี่ยวด้วย แต่ที่ทรายออกมายอมรับเพราะว่าอยากให้เรื่องจบๆ ไป”
แล้วทำไมต้องไปปลอมแปลง?
เบส : “หนูไม่ได้ต้องการเงิน ถ้าเงินเข้ามาหนูก็ไม่ได้ เพราะเป็นบัญชีพี่สาว แต่บัตรเอทีเอ็มอยู่กับหนู สามารถไปเบิกได้ แต่ไม่ได้มีเจตนาจะเอาเงินตรงนั้นเลย แค่โพสต์เล่นๆ แล้วจะลบเฉยๆ ไม่ต้องการเงินจริงๆ บัตรเอทีเอ็มหนูก็ใช้กับพี่ทราย หนูทำอะไรก็ใช้บัญชีพี่สาวหมด เวลาขายของออนไลน์ก็เป็นบัญชีพี่สาวหมดทุกอย่าง”
แล้วมียอดเงินเข้าบัญชีเท่าไหร่?
เบส : “ยอดตอนแรกพันกว่าบาท ยอดตอนนี้ 4 พันกว่า ไม่ได้ถอนค่ะตอนนี้เอทีเอ็มอยู่กับพี่ หลังจากนั้นเราก็ทะเลาะกับ แต่ที่ไม่กล้าออกมายอมรับ เพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ (ร้องไห้) ไม่คิดว่าเป็นแบบนี้ คิดว่าพอเราโพสต์ แล้วลบ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นพอเป็นแบบนี้ก็เสียทุกอย่าง (ร้องไห้) หนูขอโทษค่ะ (ยกมือขอโทษบิณฑ์) ขอโทษพี่บิณฑ์ ขอโทษทุกคน (ร้องไห้) ไม่ตั้งใจให้เกิดเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น”
แล้วพี่บิณฑ์เชื่อน้องไหม?
บิณฑ์ : “ในใจลึกๆ ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสิ่งที่พูดมาเป็นความจริง สมมติวันนี้ไม่มีข่าวว่าเป็นเพจปลอม เงินอาจเข้าไปหลายหมื่น เป็นแสน แล้วถ้าเกิดตรงนั้น น้องจะเอาเงินมาคืนมั้ย”
เบส : “คืนค่ะ”
บิณฑ์ : “ก่อนทำน้องไม่คิดว่าเกิดเรื่อง เดี๋ยวนี้ออนไลน์มันเร็วมากเลยนะ”
เบส : “ตอนแรกก็ตามลบทุกกลุ่ม ทันอยู่ 7-8 กลุ่ม ไม่ได้เกินเลยขนาดนั้น”
บิณฑ์ : “น้องตั้งใจเอาเงินเพื่อนๆ ใส่หนูแล้วเอามาให้พี่”
เบส : “ไม่ค่ะ หนูยืนยันคำเดิมว่าแค่โพสต์เล่นๆ ตอนไม่มีใครมาเมนต์ก็ตามลบทุกกลุ่ม แต่กลุ่มนี้มันลบไม่ทัน ถ้าเขาโอนมา ถามว่าคืนไหม มันเป็นบัญชีพี่สาวหนูก็จะโอนคืน ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เลย ส่วนถามว่าโยนความผิดให้พี่เขาไหม ไม่ได้โยน เขารับสารภาพของเขาเอง เขาอยากให้เรื่องจบ ไม่ได้โยนเรื่องให้ใครเลย”
แล้วคุณแม่รู้หรือไม่ว่าเกิดเรื่องแบบนี้?
แม่ : “ไม่รู้เลยค่ะ รู้ตอนข่าวออกแล้ว พอแม่เห็นเลขบัญชีก็จำได้ จึงยกหูโทรหาเบส แต่น้องก็ไม่ยอมรับว่าทำ พอมาตอนเย็นดูคลิปที่พี่บิณฑ์คุยกับเบสและทราย แล้วเป็นทรายยอมรับ แต่พอตอนเช้าดูข่าวอีกที ลูกสาวโพสต์ว่าเขาทำเอง ก็เลยโทรหาอีกรอบ เขาก็ยอมรับ คือแม่เสียใจมาก (ร้องไห้) แม่ก็อยากให้เขาขอโทษทุกคน และขอโทษพี่บิณฑ์ด้วย ให้เอาเงินที่อยู่ในนั้น โอนกลับไปพี่บิณฑ์ด้วย”
บิณฑ์ : “เขาบอกว่าน้องเป็นคนโพสต์ แต่ไม่ใช่บัญชีเขา ผมก็ไม่พอใจเท่าไหร่ ผมต้องการคนทำแล้วยอมรับ ไม่ใช่ไปบีบบังคับให้เขารับ วันนี้น้องพูดมา โอเค อาจโพสต์เล่นๆ แต่การโพสต์เล่นๆ เอาบัญชีหนูเข้าไป ถ้าโพสต์ไม่มีบัญชีหนู ก็ร่วมด้วยกับพี่ แต่นี่หนูปลอมแปลง เอาเลขที่บัญชีหนูเข้าไป พี่ว่าหนูเจตนาอยากได้เงิน แต่ไม่คิดว่าจะเรื่องใหญ่ขนาดนี้ การโพสต์เล่นๆ มีผลต่ออนาคตและชีวิตหนู คุณแม่ก็เสียใจมาก แม่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร”
แล้วเงินจำนวนนี้จะคืนอย่างไร?
เบส : “ที่คุยกับพี่สาวเขาจะโอนคืน ตอนนี้คุยไปทางธนาคาร ต้องเป็นเรื่องของตำรวจ เพราะสั่งอายัดไว้ ต้องรอธนาคารจัดแจงเอง”
บิณฑ์ : “แม่โกรธน้องมั้ย”
แม่ : “ตรงๆ เลยว่าโกรธ เพิ่งเจอน้องเมื่อคืน เจอครั้งแรกก็ไม่พูด ก็ถามว่าทำจริงไหม เขาก็บอกว่าเขาทำจริง ก็เลยถามว่ามีใครร่วมด้วยมั้ยเขาบอกว่าเขาทำคนเดียว”
แม่เชื่อหรือไม่ว่าเขาทำคนเดียว?
แม่ : “เชื่อเต็มๆ เลย ไม่มีใครร่วมด้วย”
ส่วนเรื่องแจ้งความเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?
บิณฑ์ : “แจ้งแล้ว แต่ไม่อยากมีบาปมีกรรมกับใคร เมื่อคืนผมไปก็ไปถอนแจ้งความแล้วผมไม่สบายใจ แม้ในใจผมรู้สึกว่าน้องอาจไม่พูดความจริงแต่ไม่เป็นไร ผมไม่อยากมีเวรมีกรรมกับใคร เงินสี่พันบาทก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าตำรวจจะดำเนินการก็เป็เนรื่องของตำรวจ”
พี่บิณฑ์โดนปลอมแปลงบัญชีแบบนี้บ่อยไหม?
บิณฑ์ : “บ่อยมาก จนเรารู้สึกว่าทำไมคนพวกนี้ยังคิดจะทำ แทนที่จะทำมาหากินเอง คนไทยบางทีไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าที่โอนไปเป็นชื่อใคร ได้ไปเป็นแสนเป็นหมื่น ก็เสียเวลาไปแจ้งความ ตร.ก็ดำเนินหาโน่นนี่ สี่เดือนเงินก็หมด แล้วก็บอกว่าทำไปเพราะไม่มีอันจะกิน โน่นนี่ เราก็ใจอ่อน คนเขารอตรงนี้เป็นมะเร็งต้องผ่าตัดคุณเอายอดตรงนี้ไปเขาก็น่าสงสาร คุณก็เป็นบาป บางทีคนทำก็เป็นผัวเมีย มันมีหลักฐาน บัญชีสามารถตามได้อยู่แล้ว”
แล้วนอกเหนือจากกรณีนี้ ยังมีอีกกรณีอื่นอีกไหม?
บิณฑ์ : “มี เป็นผู้ชาย อันนั้นเป็นอีกธนาคาร แต่เขาลบหลักฐานไป ได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ ไม่น่าคิดที่จะทำ แต่ถ้าคนไม่มีจริงๆ หมดทุกอย่างไม่รู้จะทำยังไง นี่คือหากินได้ง่ายที่สุด แต่ไม่รู้หรอกคนเดือดร้อนมันทรมาน ผมเป็นตร.ไม่ได้ เพราะผมเป็นคนใจอ่อน เมื่อวานก็เอาข้าวเอาเงินไปแจกในคุกอีก (หัวเราะ) น้องอาจไม่ตั้งใจทำ เราไม่อยากเป็นบาปเป็นกรรม เขาทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเอง”
แล้วเบสมาที่อุบลฯ เพราะอะไร?
เบส : “หนูอยากขอโทษพี่น้องชาวอุบลฯ และขอโทษพี่บิณฑ์ต่อหน้า”
แม่อยากพูดอะไร?
เบส : “อยากขอโทษพี่บิณฑ์และทุกๆ คนค่ะ (ร้องไห้) เราไม่ได้รู้เรื่องค่ะ พ่อเขารู้ พ่อก็โกรธเหมือนกันค่ะ”
บิณฑ์ : “(กอดเบส) เป็นคนดีต่อไปนะ แล้วอย่าทำอีกนะ”
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – สนุ๊กนิวส์ https://www.sanook.com/news/7901014/