ยอดปล้นทองนาทวี พุ่ง 2,400 บาท เกือบ 100 ล้าน วิเคราะห์พุ่งเป้าคดีความมั่นคง!

ยอดปล้นทองนาทวี พุ่ง 2,400 บาท เกือบ 100 ล้าน วิเคราะห์พุ่งเป้าคดีความมั่นคง!

พล.ต.ท.รณณศิลป์ กล่าวว่า เหตุผลที่ให้น้ำหนักเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพราะดูจากพฤติกรรมในการก่อเหตุของคนร้าย เมื่อมองย้อนหลังกลับไป เหมือนกับคดีปล้นเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ใน อ.นาทวี เมื่อวันที่16 สิงหาคม 2560 คือ มีการปล้นรถมาก่อน แล้วนำมาใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายที่ลงมือปล้นร้านทองจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและคำให้การของพยานมีอย่างน้อย 17-20 คน

มีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นอย่างดี ทั้งคนที่ทำหน้าที่ปล้นรถ ส่วนหนึ่งก็คุมคนขับรถเอาไว้ กลุ่มหนึ่งก็เอารถมาส่งให้กับทีมปล้นร้านทอง โดยในส่วนของทีมปล้นน่าจะมี 12 คน บางคนแต่งกายเป็นผู้หญิงแฟงตัวเป็นลูกค้ามาเคาะประตูร้านทองเพื่อให้เปิดประตูเพราะต้องเปิดสวิทจากด้านในและดันประตูเอาไว้ จากนั้นคนร้ายที่ถืออาวุธปืนสงครามก็บุกเข้าไปในร้าน

โดยพบว่าในคดีนี้นอกจากรถตู้ที่ปล้นมาแล้ว ยังมีรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้จำนวน3 คัน เป็นรถรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กค 1828 ปัตตานี ซึ่งถูกขโมยมาเช่นกันนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณเดียวกับที่ทิ้งรถตู้ ซึ่งอาจจะขับมารับคนร้ายแต่รถเกิดเสียจึงทิ้งเอาไว้ ส่วนอีก2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 1 กค 1827 ปัตตานี และรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ขทอ 640 ปัตตานี ที่คนร้ายจี้เอาไปจากใต้ถุนบ้านเลขที่ 13/1 หมู่11 ต.นาทวี อ.นาทวี ซึ่งยังไม่พบรถทั้งสองคันแต่ได้แจ้งเตือนให้เป็นรถอันตรายแล้ว

ผบช.ภาค9 ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของรายละเอียดอื่นของคดีทั้งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะมีคนในร่วมด้วยหรือไม่หรืออดีตลูกจ้าง เพราะคนร้ายรู้ทุกอย่างภายในร้านเป็นอย่างดีและลงมืออย่างง่ายดาย ในเรื่องนี้ก็ต้องสอบสวนเช่นกันโดยเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยมาสอบสวนทุกคน

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด  https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2834056

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *