กองทัพเมียนมา เตรียมส่งรถถังและรถยานเกราะ ถล่มกองกำลังพันธมิตรทางเหนือ (FUA) (คลิป)

กองทัพเมียนมา เตรียมส่งรถถังและรถยานเกราะ ถล่มกองกำลังพันธมิตรทางเหนือ (FUA) (คลิป)

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 สถานการณ์ชายแดนในสาธารณรัฐสหภาพแห่งชาติเมียนมาร์ การสู้รบ ยังตึงเครียดและรุนแรง ระหว่าง กองกำลังกลุ่มพันธมิตรทางตอนเหนือของรัฐฉาน กับทหารฝ่านรัฐบาลเมียนมา ได้มีการปะทะต่อเนื่องหลายจุด ใน รัฐฉานตอนเหนือ กองทัพเมียนมา มึงเตรียมส่งรถถัง และรถยานหุ้มเกราะ เข้าพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือ เพื่อโจมตีฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ที่เป็นกองกำลังแนวร่วมต่อต้าน
กองกำลังพันธมิตรทางเหนือ (FUA) ประกอบด้วย องค์กรอิสรภาพคะฉิ่น กองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIO/KIA) กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNTJP/MNDAA) แนวร่วมปลดปล่อยรัฐปะหล่อง/กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (PSLF/TNLA) และกองทัพอาระกัน (ULA/AA)

ซึ่งกองทัพสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีรถถังรถยานหุ้มเกราะที่มีประสิทธิภาพสูง และเป็นเขี้ยวเล็บของกองทัพเมียนมา พี่พร้อมจะส่งออกกับอาร์ม ฝ่ายต่อต้าน และศัตรูในทุกพื้นที่ กองทัพเมียนมาถือว่ามีรถถังและรถยานหุ้มเกราะ ที่มีศักยภาพสูงจำนวนมาก ที่สั่งซื้อมาในราชการทหารยามเกิดศึกสงครามในประเทศ ประกอบด้วย รถสายพานกู้ซ่อม Type-653 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 18 คัน, รถสายพานวางสะพาน Type 84 จากจีน จำนวน 16 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง MPV ซื้อมาจากสาธารณรัฐอินเดีย จำนวน 10 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง Panhard M3 จากสาธารณรัฐฝรั่งเศส จำนวน 10 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง Humber Pig ซื้อจากสหราชอาณาจักรอังกฤษ จำนวน 40 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง Panhard AML ซื้อมาจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส จำนวน 50 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง Ferret สั่งซื้อจากสหราชอาณาจักร จำนวน 45 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง EE-9 Cascavel จัดหามาสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล จำนวน 150 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง WZ551 จัดซื้อมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 176 คัน, รถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-3U ซื้อจากประเทศยูเครน จำนวน 368 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน MT-LB จัดหามาจากประเทศยูเครน จำนวน 98 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน Type 90 AFV จัดหามาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 55 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน Type 85 จัดหามาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 250 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน Type 63 จากจีน จำนวน 50 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน Type 62 จำนวน 105 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน T 55 จำนวน 10 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน Type 69-2 จัดหามาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 80 คัน, รถหุ้มเกราะสายพาน T-72S ซื้อมาจากประเทศยูเครน จำนวน 139 คัน และ รถหุ้มเกราะสายพาน VT-1A จัดหามาจากสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน จำนวน 50 คัน

ซึ่งผลจากการสู้รบในครั้งนี้สร้างผลกระทบในการท่องเที่ยว-เศษฐกิจ ในเมืองล่าเสี้ยว ที่มีนักท่องเที่ยว 57 คนได้ตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายทันทีขณะที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ในล่าเสี้ยวและสีป้อ โดยรีบเปลี่ยนสายการบิน Air KBZ จากสนามบินล่าเสี้ยว เดินทางลงมายังมัณฑะเลย์และกรุงย่างกุ้งแทน ที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ที่นิยมเดินทางมาเที่ยวยังรัฐฉานเหนือ ของประเทศเมียนมา ในช่วงหน้าฝน  ซึ่งสมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมียนมาได้แจ้งเตือนไปยังนักท่องเที่ยวยให้ติดตามสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในรัฐฉานอย่างใกล้ชิด  ขณะนี้บริษัททัวร์หลายแห่งได้ยกเลิกโปรแกรมของลูกทัวร์ที่จะเดินทางขึ้นมายังสีป้อ โดยจัดโปรแกรมเพิ่มเติมนักท่องเที่ยวเหล่านั้นพานักอยู่ในปินอูลวินแทน  หลังเกิดการระเบิดในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และการรถไฟเมียนมาได้ประกาศระงับการเดินรถไฟระหว่างมัณฑะเลย์-ล่าเสี้ยว ข้ามสะพานรถไฟก๊กเท็ค ซึ่งเป็นขบวนรถยอดนิยมของนักท่องเที่ยว  ซึ่งทางการเมียนมาตั้งเป้าความหวังให้เหตุการณ์สงบลงโดยเร็ว เพื่อให้การสัญจรทางรถไฟสายมัณฑะเลย์-ล่าเสี้ยว และการท่องเที่ยว – เศษฐกิจ สามารถกลับมาให้บริการสู่สภาวะปกติได้อีกครั้ง ภายในวันที่ 1 กันยายน 62 นี้ ซึ่งทางการเมียนมาได้เร่งซ่อมแซมสะพานก๊กตวินให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด

 

ขอขอบคุณภาพบ้างส่วนจาก – นักรบชายแดน และสำนักข่าวของเมียนมา

แหล่งข่าวจาก – ข่าวชัดประเด็นจริง

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *