เหล่าทายาทธุรกิจ “ก๋วยเตี๋ยวอันเจริญ” อันเลื่องชื่อเมืองพะเยา หอบเอกสารแจ้งความ หลังน้องๆ ทั้ง 5 คนไม่ได้รับทรัพย์สินมรดกตามที่ตกลง อ้างพี่ชายคนโตเก็บเอาไว้ผู้เดียว หวั่นธุรกิจสืบทอดไปต่อไม่ได้
กลุ่มสมาชิกตระกูล สกุลเจียมใจ เจ้าของธุรกิจชื่อดัง “ก๋วยเตี๋ยวอันเจริญ” นำหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา เพื่อให้ทำการช่วยเหลือไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เรื่องการจัดการมรดกของตระกูลอันเจริญ หลังพี่ชายคนโตครอบครองสมบัติเพียงแต่ผู้คนเดียว ไม่ยอมแบ่งปันให้น้องๆ ทั้ง 5 คน ทั้งที่เคยรวมตัวเข้าทวงถาม หลายครั้ง แต่ก็ได้รับการปฎิเสธมาตลอด
อีกทั้งยังรับปากว่าจะแบ่งทรัพย์สินให้น้องๆ แต่ก็ไม่แบ่งให้ จนน้องๆ ต่างมีลูกมีหลาน ก็ไม่สามารถขยายต่อธุรกิจที่สืบทอดกันมาถึง 70 ปีได้ แต่เนื่องจากสินทรัพย์ทั้งหมดเป็นชื่อพี่ชายครอบครองหมด ทั้งที่น้องๆ ทุกคนต่างช่วยกันทำมาหากินและฝากไว้กับกงสี โดยมีพี่ชายดูและรับผิดชอบเนื่องจากมีความไว้วางใจ
แต่ถึงระยะนี้น้องๆ จะเรียกร้องขอให้มีการแบ่งมรดกดังกล่าว แต่กลับบ่ายเบี่ยงและเดินหนีไม่ยอมพูดคุย ตนกับพี่น้องทั้ง 5 คน ต้องเข้าร้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพบหลักฐานบางอย่าง ที่ระบุว่า พี่ชายคนโตได้ปลอมแปลงเอกสารเพื่อทำธุรกรรมอำพรางหลายรายการ
นายวิษณุ เปิดเผยว่า แต่เดิมนั้นธุรกิจก๋วยเตี๋ยวอันเจริญได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ 70 ปีที่แล้ว โดยพี่น้องทุกคนได้ร่วมมือกันที่สร้างร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ กลายมีชื่อเสียงโด่งดังระดับจังหวัดและประเทศ ก๋วยเตี๋ยวอันเจริญนั้นจะมีการทำแบบครบวงจร โดยพี่น้องแต่ละคนก็ช่วยกันทำมาหากินจนประสบผลสำเร็จ และมีรายได้ที่มั่นคง
ซึ่งรายได้ทั้งหมดนั้นก็จะรวมกันโดยใช้ลักษณะเป็นกงสี ให้พี่ชายคนโตที่ทุกคนไว้วางใจ เป็นผู้ทำนิติกรรมต่างๆ เนื่องจากนับถือเสมือนพ่อ สามารถสร้างธุรกิจได้นับพันล้านบาท แต่ต่อมาพี่ชายคนโตได้ทำการแต่งงานมีครอบครัว และนิสัยก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่แบ่งทรัพย์สินให้กับน้องๆ ตามที่ตกลงกันไว้ แม้จะพยายามทวงถามมาตลอด แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง
กระทั่งน้องๆ ก็อายุย่างเข้าเลข 7 แล้ว ก็ไม่ได้รับทรัพย์สมบัติอะไรเลย เพื่อจะทำการต่อยอดในการทำธุรกิจอื่นๆ และในวันนี้ได้เข้าทวงถามก็ได้รับการปฏิเสธเช่นเคย ทำให้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันจึงได้เข้าทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการไกลเกลียกรณีดังกล่าว
เนื่องจากพบว่าพี่ชายคนโตได้นำเอกสารที่สอบไปในทางทุจริตหรือโดยการ มีการปลอมแปลงเอกสารและมีการโอนที่ดินบางส่วนที่เป็นทรัพย์สมบัติของตระกูลไปจำหน่าย จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการไกลเกลี่ยให้ดำเนินการตกลงกันในการแบ่งสมบัติในครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันน้องๆ ทั้ง 5 คนไม่มีทรัพย์สินใดๆ เพราะเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของพี่ชายคนโตแต่เพียงผู้เดียว