“บิ๊กโจ๊ก” นำทีมแถลงผลปฏิบัติการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม” รวบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ฉ้อโกงประชาชน กว่า 2,000 ล้านบาท ชาวบ้านร่ำไห้แห่ขอบคุณ วอนนำที่ดินทำกินผืนสุดท้ายมาคืนให้โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงศ์สว.กก.สืบสวน ภาค 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 3 และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำหมายจับเข้าไปทำการจับกุม น.ส.เอ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้ต้องหา 5 คน ซึ่งถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีอดีตนักการเมืองชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ 2 คนรวมอยู่ด้วย พร้อมอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 16,700,000 บาท ที่เป็นของผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเวลา 19.15 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 และคณะ เดินทางมายังห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อแถลงผลการดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 27
โดยได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น ยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มนายทุนเงินกู้ ผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ, ยโสธร, อุบลราชธานี, ขอนแก่น, มหาสารคาม, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครสวรรค์ และนนทบุรี รวม 15 ราย 34 จุด
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับผลการปฏิบัติสรุป คือ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 คน ซึ่งเป็นนักการเมืองชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ รวมอยู่ด้วย 2 คน ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 1 คน ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ ทำการยึดอายัดทรัพย์สิน มูลค่า 1,450 ล้านบาท
ประกอบด้วย สนามกอล์ฟ ขนาด 18 หลุม เนื้อที่ 400 ไร่, โรงแรม 2 หลัง, อพาร์ทเม้นท์ 1 แห่ง, ตลาดสด 1 แห่ง, บ้านและอาคารพาณิชย์ 10 หลัง, ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ 1 แห่ง, รถยนต์ 15 คัน, อาวุธปืน 5 กระบอก, ยาบ้า 1,000 เม็ด, ตรวจยึดโฉนดที่ดิน 453 ฉบับ เนื้อที่ 1,195 ฉบับ มูลค่า 838.4 ล้านบาท พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องทางคดีอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,288.4 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ทำการอายัดทรัพย์สินเป็นโฉนดที่ดินจำนวนกว่า 200 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งจะได้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการต่อไป คือการเจรจาระหว่างนายทุนกับชาวบ้านที่นำเอาที่ดินไปจำนำจำนอง โดยจะให้ความเป็นธรรมตามฎหมายแก่ทั้งสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และคณะ แถลงข่าวเสร็จแล้ว ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเงินกู้นอกระบบนำเอาดอกไม้มาขอบคุณ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และคณะ พร้อมทั้งร่ำไห้โอบกอด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ด้วยความซาบซึ้งใจที่มาให้การช่วยเหลือและได้ขอให้นำเอาโฉนดที่ดินซึ่งเป็นที่ดินทำกินผืนสุดท้ายกลับคืนมาให้พวกตนโดยด่วนด้วย