พ่อค้าส้มตำ ชี้จุด แก๊งตำรวจ รีดเงิน 5 หมื่น ผวาถูกขู่ เตรียมหาที่ขายของใหม่
พ่อค้าส้มตำ – กรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี อาชีพค้าขายส้มตำ อยู่บริเวณปากซอยพระรามหก ซอย 22 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ แจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีกับ ดาบตำรวจนายหนึ่ง สังกัด กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และพวกประมาณ 10 คน ที่ร่วมกันกรรโชก และใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เรียกรับเงินสินบนจากตนเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท
ต่อมา พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 มีคำสั่งย้าย 6 นายตำรวจสังกัด กก.สส.บก.น.1 ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.1 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายศักดิ์ชัย กำลังขายส้มตำอยู่ น.ส.สโรชา แน่นอุดร อายุ 30 ปี ลูกสาว เดินมาร้องไห้กับตนพร้อมบอกว่า ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 165/12 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักเช่าไม้ 2 ชั้น จึงรีบเดินทางไปที่บ้านพัก พบตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย เข้าค้นบ้านพักของตน
จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีหมายค้นหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงให้ดู จึงถามว่าค้นแล้วเจออะไร ตำรวจบอกว่าเจอยาไอซ์ไม่เยอะ เมื่อขอดูของกลาง แต่ตำรวจไม่ยอมให้ดู ก่อนควบคุมตัวลูกสาวของตนไป จึงเดินทางตามไป และพบว่าลูกสาวถูกจับนั่งอยู่ใต้อาคาร ไม่ได้อยู่บนที่ทำงานที่อยู่บนตึกชั้น 3 และเป็นมุมมืดๆ โดยไม่มีการใส่กุญแจมือ และมีตำรวจนอกเครื่องแบบควบคุมอยู่ 1 คน จึงเดินไปนำตัวลูกสาวกลับบ้าน จากนั้นตำรวจก็ตามมาที่ร้านส้มตำของตน ก่อนจับตนไปแทน โดยให้เหตุผลว่าตนพาผู้ต้องหาหลบหนี
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ย. นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร พ่อค้าร้านส้มตำ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.1 อีกครั้งเพื่อให้การเพิ่มเติม ก่อนให้นายศักดิ์ชัย ชี้จุดที่ทางกลุ่มผู้ต้องหานำตัวบุตรสาวมา บริเวณร้านอาหารตามสั่ง ใต้อาคาร กก.ส.น1ถนนพญาไท และเป็นจุดที่ ทางเจ้าหน้าที่สืบ 1 ทั้งหมด พยายามนำตัวตนขึ้นไปบน ที่ทำการสืบ 1 เพิ่อตั้งข้อหาตนว่า พยายามพาผู้ต้องหาหลบหนี และเรียกรับเงิน 50,000 บาท จนตนต้องให้ลูกชายนำเงินมาให้ เพื่อแลกกับอิสรภาพ
ก่อนไปชี้ จุดที่ 2 ที่หน้าห้องสืบสวน สน.พญาไท ที่หลังจากมีการแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่พยายามไกล่เกลี่ยตน และคืนเงิน โดยมีดาบตำรวจ นำเงินมาคืน หลังจากที่ตนไปแจ้งความ และร้องสื่อมวลชนจนเป็นข่าวดัง
พ.ต.อ.วิชัย เปิดเผยว่า ได้เรียก นายศักดิ์ชัย ผู้เสียหายมาให้การเพิ่มเติม และขอให้นายศักดิ์ชัย ไปชี้จุด ที่กลุ่มผู้ต้องหาเรียกรับเงินและคืนเงิน ก่อนทำสำนวนส่งให้ปปช. ภายใน 30 วัน เนื่องจากผู้ที่ก่อเหตุเป็นข้าราชการ
ด้าน นายศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า วันนี้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้การเพิ่มเติม และไปชี้จุดที่เจ้าหน้าที่เรียกรับเงินและคืนเงิน ตนไม่ กลัวอะไรแล้ว ไม่มีการยอมความ จะดับเครื่องชน คนที่ขู่ตนเอง ที่ชื่อ ต่อ ก็ไม่ได้เป็น ตำรวจ เป็นสายให้ตำรวจ จากนี้ต่อไปคงต้องหาที่ขายส้มตำใหม่ เพราะยังผวากับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่กล้าขายที่เดิม
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1579523
