วันที่ 25 ก.ค. ร.ต.อ.กิตติภูมิ เกิดมั่นรอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ภายในห้องพักแบ่งให้เช่าเลขที่ 15/56 ซอยบางขุนเทียน 10 ถนนบางขุนเทียน แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้น จากการตรวจสอบภายในห้องพักเลขที่ 5 บริเวณชั้นที่ 3 พบศพ นางซิน มา วิน อายุ 27 ปี ชาวเมียนมา นอนหงายจมกองเลือด โดยมีมีดปลอกผลไม้หักคาอยู่ที่ลำคอ และมีบาดแผลถูกปาดเข้าที่บริเวณลำคอจนเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แห่ง ยาวประมาณ 14 เซนติเมตร นอกจากนี้ภายในห้องพักยังถูกรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มพื้น รวมทั้งกระเป๋าสตางค์แบบผู้หญิง สีสมพู ถูกเปิดออกโดยไม่พบเงินแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายสุภัทร์ ยอดนอก อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัท แอ๊ดด้า ฟุตแวร์ ไทยแลนด์ จำกัด ให้การว่า โดยปกติผู้ตายทำงานที่เดียวกับตน ซึ่งอยู่ในแผนกฉีดพีวีซี โดยพักอาศัยอยู่กับสามีคือนายโซ ตู เท อายุ 30 ปี ภายในห้องจุดเกิดเหตุซึ่งทำงานอยู่ในแผนกปั่นพีวีซี โดยทั้งคู่ทำงานมาได้ประมาณ 6 เดือน อีกทั้งมีเพื่อนร่วมสัญชาติเป็นชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องเลขที่ 4 ซึ่งอยู่ติดกันและผู้ตายมักฝากกุญแจห้องอีกชุดทิ้งไว้ให้เผื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน โดยทราบชื่อฝ่ายชายคือนายเมียงยาว อายุ 25 ปี ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้เดินทางกลับที่ห้องพักเพียงลำพัง ส่วนสามีทำงานเลิกประมาณ 19.00 น. จนกระทั่งสามีเดินทางกลับเข้ามาห้องพักจึงพบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว
ด้านนายโซ ตู เท ให้การว่า โดยปกติภรรยาจะใส่ต่างหูทอง 1 คู่ และเงินซึ่งพกติดตัวในกระเป๋าสตางค์จำนวน 2 หมื่นบาท แต่เมื่อตนเดินทางกลับห้องพักพบว่าทั้งหมดได้หายไป อีกทั้งยังพบหมวกแก๊ปสีดำ ซึ่งไม่ทราบว่าของผู้ใดทำตกหล่นอยู่ในห้อง รวมทั้งเพื่อนสนิทคือนายเมียงยาว ที่อาศัยอยู่ห้องพักติดกันได้หายตัวไปอย่างลึกลับ แต่ภรรยาของเพื่อนยังคงอยู่ตามปกติ โดยมีการจัดเตรียมอาหารทิ้งไว้ในห้อง ซึ่งตนคาดว่าอนเกิดเหตุเพื่อนน่าจะอยู่ในห้องพัก จนกระทั่งเกิดเหตุการสลดดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานก่อน เร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุรแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1377038