มีพระราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โยกไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา รวมถึงให้ย้ายรวม 11 ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองปลัดกระทรวง
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระบุว่ามีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตําแหน่งเดิม และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จํานวน 11 ราย ดังนี้
1.นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ พ้นจากตําแหน่งรองปลัดกระทรวง สํานักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ 2.นายปวิณ ชํานิประศาสน์ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองปลัดกระทรวงสํานักงานปลัดกระทรวง 3.นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา 4.นายประจญ ปรัชญ์สกุล พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
5.นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสํานักงานปลัดกระทรวง 6.นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ พ้นจากตําแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสํานักงาน ปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร 7.นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร พ้นจากตําแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสํานักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ
8.นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ 9.นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี 10.นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ 11.นายสิริรัฐ ชุมอุปการ พ้นจากตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอํานาจเจริญ และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2561 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2561
ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1297867