แม่แจ้งจับลูกชายแท้ๆ ฉก1.2ล้านให้วีเจ.สาว

 

แม่แจ้งจับลูกแท้ๆ แอบโอนเงินในบัญชี 1.2 ล้านบาทไปให้วีเจ.สาวก่อนหนีหายไปทั้งคู่ เผยก่อนหน้านี้จะให้ลูกชายไปกดเงินในบัญชีครั้งละ 2-3 หมื่นบาท โดยทุกครั้งลูกชายจะอ้างสลิปหมด กระทั่งคืนวันที่ 12 ก.ค.ลูกชายพาวีเจ.สาวสวยมานอนที่บ้าน พร้อมบอกเป็นแฟนกัน จึงให้แหวนเพชรไป 1 วง จากนั้นทั้งคู่ได้หายไปจากบ้าน เมื่อจะไปกดเงินก็กดไม่ออก เลยไปตรวจสอบที่แบงก์พบเงินถูกโอนไปเกือบ 1.2 ล้าน

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 21/16 ม.4 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบกรณีนางสิริการย์ ศิริสิทธิ์ดำรงกิจ อายุ 53 ปี เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ประชิด สมากฤษ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเอาผิดนายระพีพัฒน์ ศิริสิทธิ์ดำรงกิจ อายุ 28 ปี ลูกชายแท้ๆ หลังแอบโอนเงินในบัญชีของตนเอง ไปให้วีเจ.สาว เกือบ 1.2 ล้านบาท

นางสิริการย์ เล่าว่า ตนมีอาชีพขายของชำอยู่ริมถนนสายเสนา-อยุธยาสายเก่า ก่อนถึงโรงพักเสนา ส่วนสามีนั้นเสียชีวิตไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ต่อมาธ.ก.ส.ที่สามีเคยทำงานอยู่ ได้โอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับครอบครัว เป็นเงิน 3 ล้านบาท แต่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วคงเหลือเงิน 1.9 ล้านบาท ต่อมาได้เปิดบัญชีและทำบัตรเอทีเอ็มในชื่อของตัวเอง โดยอาศัยอยู่กับนายระพีพัฒน์ ส่วนลูกชายอีก 2 คนไปทำงานในตัวเมือง

นางสิริการย์ เล่าอีกว่า ทุกครั้งเวลาไปกดเงินจะให้นายระพีพัฒน์ไปกดให้ครั้งละ 2-3 หมื่นบาท เพื่อใช้จ่ายในครอบครัวและซื้อของมาขาย แต่ไม่เคยได้ใบสลิปเงินเลย โดยลูกชายอ้างว่าตู้ใบสลิปหมดบ้าง เวลาให้พาไปดูยอดเงินที่ธนาคารก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อย จนกระทั่งวันที่ 12 ก.ค. ลูกชายได้พาวีเจ.สาวหน้าตาดี ผิวขาว สวย อายุประมาณ 20 ปี มานอนค้างคืนที่บ้านและได้บอกกับตนว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน จึงได้ให้แหวนเพชรไป 1 วง ต่อมาคืนวันที่ 13 ก.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. ทั้งคู่ได้หายออกจากบ้านไป จึงให้ลูกชายคนโตไปลองกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อนำเงินมาปรับปรุงบ้านที่ทรุดโทรม แต่ปรากฏว่าเงินไม่สามารถกดได้ จึงเข้าไปตรวจสอบที่ธนาคาร พบว่าเงินได้ถูกโอนผ่านบัตรเอทีเอ็มไปเกือบ 1.2 ล้านบาท

ร.ต.อ.ประชิน ได้รับแจ้งความไว้แล้ว ในข้อหาลักทรัพย์มารดา ส่วนเรื่องของเงินที่โอนไปให้นั้น ต้องรอดูก่อนว่าวีเจ.สาวบังคับหรือหลอกลวงหรือไม่ ตอนนี้รอให้นายพีระพัฒน์เข้ามอบตัวก่อน

 

ข่าวและภาพจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1468896155

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *