ผกก.สภ.เมืองพัทยาไล่ออกตร.เลว!รีดทรัพย์-หอมแก้มสาวบนโรงพัก

                                           ผกก.สภ.เมืองพัทยาไล่ออกตร.เลว!รีดทรัพย์-หอมแก้มสาวบนโรงพัก

วันที่ 2 มิ.ย.2561 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวถึงกรณีที่สาวชัยภูมิวัย 23 ปี ร้องสื่อมวลชนหลังถูกนำตัวไกล่เกลี่ยคดีรถชน แต่กลับถูกเป่าแอลกอฮอล์ก่อนนำตัวเข้าห้องขัง ต่อมาระบุว่ามีเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นข้อเสนอเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อเคลียร์คดีให้พ้นผิด แต่รู้สึกเจ็บใจที่ตำรวจมาหอมแก้มและกอดรัดต่อหน้าประชาชนจนได้รับความอับอาย ก่อน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ทำการตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชา หากพบความผิดจะดำเนินการฟันวินัยให้ออกจากราชการว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิด และกล้องจากตู้เอทีเอ็ม พบว่ามีตำรวจ 1 นาย เป็นตำรวจยศนายดาบ ทำหน้าที่ผู้ควบคุมผู้ต้องหา เข้าข่ายกระทำความผิดอย่างชัดเจน ในเรื่องของการเรียกรับเงิน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยวและกระทำอนาจาร เบื้องต้นให้ออกราชการไว้ก่อนแล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องอีก 3 นายนั้น จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานการกระทำผิดอย่างชัดเจน และขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนทางวินัยเพิ่มเติมแล้ว หากพบว่าร่วมกันกระทำผิดจริงก็จะดำเนินการให้ออกจากราชการด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ทาง สตช.ได้ประชุมยกระดับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ให้ตำรวจทำผิดกฎหมายเสียเอง อาจจะมีบางส่วนที่สันดานไม่ดี แบบนี้ไม่เลี้ยงไว้ ให้เสียภาพพจน์ตำรวจ

สั่งย้าย-แจ้งข้อหาหนัก”รตอ.ราชบุรี”ทำร้ายสาว  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงประเด็นที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว หญิงสาวร้องขอความเป็นธรรม ถูก ร.ต.อ.สนธยา เย็นใจ ตำรวจจังหวัดราชบุรี ทำร้ายร่างกาย ตบบ้องหูจนแก้วหูฉีก และหวังจะข่มขืน
เหตุเกิดท้องที่ สภ.เมืองราชบุรี ว่า หลังจากแพทย์วินิจฉัยอาการบาดเจ็บของผู้เสียหายแล้ว ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่น้อยกว่า 6 เดือน ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พ.ค 61 พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวให้ ทราบ ในความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใด, ทาง สภ.ปากท่อ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ร.ต.อ.สนธยาฯ ในฐานความผิดดังกล่าวว่ามีมูลหรือไม่ พร้อมกับได้มีคำสั่งให้ไปรักษาการณ์ในตำแหน่ง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ดำเนินสะดวก ซึ่งอยู่นอกพื้นที่ที่รับราชการปกติ
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนยังคงต้องรอผลการชันสูตรบาดแผลจากแพทย์และผลพิมพ์มือผู้ต้องหา จากทะเบียนประวัติอาชญากร ซึ่งในเรื่องนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรแต่อย่างใด สำหรับความผิดดังกล่าว ให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน หากมีข้าราชการตำรวจกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มีการปกป้องอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวบ้านเมือง  http://www.banmuang.co.th/news/crime/113557

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *