ลาโลกไปให้คนรำลึก..นักโบราณคดีจีนผู้พบ ‘สุสานทหารจิ๋นซี’ คนแรก

บรรดาสื่อมวลชนจีนต่างรายงานรำลึกและยกย่อง นายจ้าว กังหมิน นักโบราณคดีคนแรกที่เข้าไปยังพื้นที่ และเป็นผู้บุกเบิกศึกษาเขตโบราณสถาน สุสานจิ๋นซี ที่มีทหารดินเผาจำนวนมากฝังอยู่ใต้พิภพ ทางตอนกลางของมณฑลส่านซี ของประเทศจีน หลังจากนายจ้าวเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ด้วยวัย 81 ปี

ขณะที่ีบีบีซีรายงานเจาะลึกเรื่องราวของนายจ้าวถึงการค้นพบสุสานสำคัญของจีนและของโลก ว่าเกิดขึ้นในช่วงที่ชาวไร่ ชาวนา ในมณฑลส่านซีประสบภัยแห้งแล้ง ต้องขุดหาน้ำบาดาล จนกระทั่งมีชาวนาพบเครื่องปั้นดินเผาขนาดเท่าหัวมนุษย์ อีกทั้งยังเจอหัวลูกธนูทองแดงอีกเป็นจำนวนมาก

ในเวลานั้นนายจ้าว ในฐานะนักโบราณคดีได้รับคำสั่งจากหัวหน้าในสายงานให้ลงพื้นที่ และสำรวจเท่าที่จะเป็นไปได้

ต่อมาเป็นเวลากว่าสิบปี นายจ้าวเป็นคนแรกที่ค้นพบตุ๊กตาทหารดินเผา ทำท่าคุกเข่ายิงเกาทัณฑ์ 3 ตัวเป็นครั้งแรก ตอนนั้นนายจ้าวยังไม่แน่ใจว่าหุ่นเหล่านี้สร้างขึ้นมาในสมัยจักรพรรดิจิ๋นซี ผู้รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งในครั้งแรกเมื่อปี 221-206 ก่อนคริสตศักราช หรือ พ.ศ.322-337

นายจ้าว กังหมิน / JOHN MAN

แต่ในช่วงเวลานั้น นายจ้าวได้ค้นพบสุสานใต้ผืนดินที่ชาวนาเดินผ่านไปมาทุกวัน ด้วยสุสานกองทัพทหารจีนโบราณกว่า 8,000 ตัว มีอายุเก่าแก่กว่า 2,200 ปี รวมไปถึงยุทธภัณฑ์ต่างๆ ทั้งเครื่องยิงหิน และรถม้า โดยเหตุผลของการขุดสุสาน และจัดทำเป็นไปตามความเชื่อว่า กองทัพเหล่านี้จะช่วยปกป้องจักรพรรดิในช่วงชีวิตหลังความตาย

นายจ้าวเคยเปิดเผยว่าความรู้สึกครั้งแรกที่ได้รับคำสั่งให้ไปดูบริเวณที่เกษตรกรแจ้งมาว่า ตนขี่จักรยานไปพร้อมกับเพื่อนร่วมงานด้วยความตื่นเต้น ปั่นจักรยานเร็วมาก เร็วจนเหมือนกำลังบินอยู่ และเมื่อไปถึงก็เห็นชิ้นส่วนเล็กๆ 8 ชิ้น ประกอบด้วย ขา ส่วนหนึ่ง แขน หัวสองหัว วางอยู่ข้างกับบ่อน้ำ พร้อมกับอิฐสองสามก้อน

จากนั้นนายจ้าวก็เข้าใจทันทีว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของรูปปั้นจากสมัยฉิน ขณะที่ชาวไร่ชาวนาในบริเวณนั้นเริ่มเก็บเอาหัวลูกธนูไปขายกับร้านรับของเก่า แต่นายจ้าวจึงบอกเกษตรกรในบริเวณนั้นว่าให้หยุดขาย และพยายามกลับไปเอาของบางชิ้นที่ขายไปมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์

หลังจากนายจ้าวได้รับมอบหมายงาน ก็ใช้เวลาสามวันในการทำงาน ขุดลึกลงไปอีก จนกระทั่งเจอทหารดินเผาสองตัวที่ขนาดความสูง 178 เซนติเมตร

ทีมขุดค้นยุคแรกๆ /DANIELE DAROLLE

แต่การค้นพบก็ยังอยู่ในช่วงของความหวาดหวั่น เพราะขณะนั้นอยู่ในช่วงปี 2517 เป็นช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม รื้อราก ถอนโคน ทุกอย่างที่บ่งชี้ถึงประวัติศาสตร์และราชสำนัก หากถูกพวกเรดการ์ดค้นพบเข้าจะต้องทำลายทิ้ง ซึ่งนายจ้าวย้ำว่าการเรียนรู้วัฒนธรรมเก่าๆ เป็นหนทางที่จะทำให้สังคมก้าวสู่ความกระจ่างได้

ก่อนหน้านี้นายจ้าวเคยถูกบังคับให้วิพากษ์ตัวเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ใช้กับประชาชนในการลบความเป็นตัวตน และให้คำนึกถึงส่วนรวมมากขึ้น

นายจ้าวถูกมองว่าเป็นคนที่ชอบยุ่งเกี่ยวพัวพันกับของเก่าๆ และการค้นพบสุสานทหารจีน ทำให้นายจ้าวต้องเก็บทุกอย่างเป็นความลับ พร้อมกับพยายามบูรณะโบราณวัตถุพร้อมรับรอวันที่จะบอกให้ทุกคนได้รับรู้

จนกระทั่งนักข่าวรุ่นใหม่จากสำนักข่าวซิงหัวมาพบ และนำเรื่องนี้ไปตีแผ่ จนเรื่องถึงหูรัฐบาล นายจ้าวกลัวมาก แต่ทางรัฐบาลกลับสั่งให้ขุดค้นเพิ่ม จนพบทหารดินเผาเพิ่มขึ้นมากกว่า 500 ตัว ภายในไม่กี่เดือน และในช่วงคริสตศตวรรษที่ 80 ก็ได้รับความสนใจจากนักวิชาการตะวันตกที่เชี่ยวชาญเรื่องวัตถุโบราณในจีนเข้ามาตรวจสอบ จนกระทั่งได้รับประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 2530

 ทุกอย่างไม่ได้ลงเอยด้วยโชค ชาวนาที่เป็นเจ้าของพื้นที่โบราณสถาน บางคนถูกยึดพื้นที่ทำกินเพื่อไปทำพิพิธภัณฑ์ บางคนไม่ได้รับเงินช่วยเหลือที่เพียงพอ ชาวนาคนหนึ่งแขวนคอตาย ส่วนอีกสองคนเสียชีวิตในวัย 50 ต้นๆ จากปัญหาไม่มีเงินรักษาโรค และอีก 4 คนที่เหลือส่งจดหมายขอกับทางการว่าให้ขึ้นชื่อพวกตนเป็นผู้ค้นพบสุสานทหาร

เมื่อเรื่องถึงหูนายจ้าว นักโบราณคดีคนนี้กล่าวว่าหากตนไม่ไปที่พื้นที่ดังกล่าวในวันนั้น บรรดาเกษตรกรบริเวณนั้นคงเอาชิ้นส่วนไปขาย หายนะคงเกิดขึ้อย่างแน่นอน ซึ่งนายจ้าวชี้ว่ากลุ่มเกษตรกรต้องการเพียงแค่เงินเท่านั้น

แผ่นป้ายที่พิพิธภัณฑ์หลินตง ได้อธิบายถึงนายจ้าว กังหมิน ผู้ค้นพบสุสานทหารจิ่นซีคนแรก / JOHN MAN

ในท้ายที่สุดนายจ้าวได้จากโลกนี้ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับทิ้งมรดกทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอันเก่าแก่และมีค่าให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

 ในพิพิธภัณฑ์หลินตง ซึ่งเป็นที่จัดแสดงงานโบราณวัตถุที่มีการค้นพบ เขียนคำบรรยายถึงนายจ้าว กังหมิน ว่าเป็นผู้ค้นพบคนแรก ผู้มุ่งมั่น ผู้บูรณะ และผู้ขุดค้น ตุ๊กตาทหารและม้าดินเผาที่เลื่องชื่อเหล่านี้

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด   https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_1134463

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *