พระมีฤทธิ์!! กรณี “เจ้าคุณภูเขาทอง” รอวันสังคายนาสงฆ์ไทย

พระมีฤทธิ์!! กรณี “เจ้าคุณภูเขาทอง” รอวันสังคายนาสงฆ์ไทย

ยุทธการ “รุ่งอรุณที่ดงขมิ้น” จับสึก “พระผู้ใหญ่” และ “พระดัง” เกิดขึ้นก่อนหน้าการจัดงานเทศกาลวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2561 เพียง 1 วัน เมื่อตำรวจกองปราบเปิดปฏิบัติการสางคดีเงินทอนวัด และคดีอั้งยี่ซ่องโจร กระจายกำลังบุกวัดดังหลายแห่งพร้อมกัน ส่งผลให้อดีตพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป พระดัง 1 รูป พระภูธร 2 รูป และฆราวาสอีก 4 ราย ถูกควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ระหว่างการฝากขัง

          จากกรณีที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ให้ดำเนินคดีกับพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ได้แก่ 1.พระพรหมดิลก(เจ้าคุณเอื้อน) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 2.พระพรหมเมธี(เจ้าคุณจำนงค์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 3.พระพรหมสิทธิ(เจ้าคุณธงชัย) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 4.พระเมธีสุทธิกร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และ 5.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ในความผิดคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม

 

พระมีฤทธิ์!! กรณี "เจ้าคุณภูเขาทอง" รอวันสังคายนาสงฆ์ไทย

แม้ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ จะเป็นความลับสุดยอด แต่ก็มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลบหนีไปได้ 2 รูปคือ พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์
อย่างไรก็ตาม มหาเถรสมาคม (มส.) ได้มีมติสั่งปลดพระพรหมสิทธิ, พระพรหมดิลก และพระพรหมเมธี ออกจากการเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา
การล่องหนหายตัวของพระผู้ใหญ่ เว็บไซต์ alittlebuddha.com ตั้งข้อสังเกตแบบแสบๆ คันๆ ว่า เจ้าคุณธงชัย วัดสระเกศ และเจ้าคุณจำนงค์ วัดสัมพันธวงศาราม เป็นพระสุปฏิปันโน จึงมีฤทธิ์เดช สามารถล่องหนหายตัวออกนอกวัดได้
“ถ้าไม่มีฤทธิ์ ก็แสดงว่า ต้องมีพรายกระซิบ ระดับ “เกลือเป็นหนอน” ทั้งสองท่านจึงสามารถเล็ดลอดสายตาเหยี่ยวตำรวจไปได้ แถมเมื่อออกไปได้ตั้งนานหลายสิบชั่วโมงแล้ว ตำรวจก็ยังตามจับไม่ได้อีกต่างหาก ถ้าไม่มีระดับ “ผู้มีบารมี” คอยปกป้องคุ้มครองอยู่ ก็มีเพียงประการเดียวที่พอจะอธิบายได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล ก็คือมีฤทธิ์ !”
ว่ากันว่า เจ้าคุณธงชัย วัดสระเกศ มีฤทธิ์จริงหรือเปล่า ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ เจ้าคุณมีอิทธิพลบารมี จึงมากมายไปด้วยลูกศิษย์ ทั้งทหาร ตำรวจ และนักการเมือง

พระมีฤทธิ์!! กรณี "เจ้าคุณภูเขาทอง" รอวันสังคายนาสงฆ์ไทย

รมต.ต่างประเทศ(มส.)

          ย้อนเส้นทางสายวัดของ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) ซึ่งเป็นศิษย์ผู้ใกล้ชิดสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และอดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช 42 พรรษาของพระพรหมสิทธิ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม, เจ้าอาวาสวัดสระเกศ, ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ, เจ้าคณะภาค 10 ฯลฯ
ปี 2531 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง รับผิดชอบการบูรณปฏิสังขรณ์บรมบรรพต (ภูเขาทอง)
ปี 2545 เป็นที่ปรึกษาและประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ โดยรับผิดชอบงานสายยุโรป-สแกนดิเนเวีย พร้อมกับดูแลวัดไทยในต่างประเทศ สายงานวัดสระเกศ 17 ประเทศ
เมื่อได้รับตำแหน่งใน มส. ก็ได้รับมอบหมายให้เป็น “ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ” อันเปรียบได้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ(สงฆ์ไทย) จึงมีคอนเนกชั่นในต่างประเทศ
หลังที่มีข่าวเจ้าคุณธงชัยมุดช่องลับหนีออกจากภูเขาทองมาได้ ก็มีข่าวลือว่า ท่านหลบไปตั้งหลักที่สิงคโปร์แล้ว ซึ่งท่านเพิ่งกลับมาจากสิงคโปร์เมื่อไม่กี่วันมานี้
วันที่ 13 พฤษภาคม 2561 พระพรหมสิทธิ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ได้เข้าร่วมประชุมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ 4 ทวีป ที่ห้องประชุมของโรงแรมปาร์ค รอยัล ประเทศสิงคโปร์
เมื่อปี 2554 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงโครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล รวมถึงการจัดสร้าง “พระพุทธเจ้าน้อย” หรือ “พระโพธิสัตว์สิทธัตถะราชกุมาร” ก็ได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เป็นประธานที่ปรึกษาโครงการฝ่ายสงฆ์ และพระพรหมสิทธิ ผู้ดูแลพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล ระยะว่างเว้นการเมือง คุณหญิงสุดารัตน์หันหน้าเดินทางสายบุญ จึงมีคนเห็นเข้าวัดสระเกศไปกราบเจ้าคุณธงชัยอยู่บ่อยๆ

พระมีฤทธิ์!! กรณี "เจ้าคุณภูเขาทอง" รอวันสังคายนาสงฆ์ไทย

อดีตแห่งศึกชิงภูเขาทอง

ระหว่างปี 2556-2559 เกิดความขัดแย้งและปมฉาวข่าวทุจริตเงินทอนภายในวัดสระเกศ หลังสมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว)มรณภาพ พระพรหมสุธี หรือเจ้าคุณเสนาะ กับพระพรหมสิทธิ หรือเจ้าคุณธงชัย ต่างเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ร่วมสำนัก พร้อมกับมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศเหมือนกัน ทั้งสองสนองงานรับใช้ “สมเด็จเกี่ยว” ใกล้ชิด แต่สุดท้ายก็จบด้วยการขัดแย้งแตกหัก
เจ้าคุณเสนาะ ขึ้นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในอีก 4 เดือนต่อมา จึงสั่งปลดเจ้าคุณธงชัย จากผู้ช่วยเจ้าอาวาสและไม่ให้ดูแลภูเขาทอง เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะเสือสองตัวจะอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้
เจ้าคุณธงชัยก็มี “แนวร่วม” จากวัดปากน้ำ และลูกศิษย์คอยช่วยเหลือ จึงกลับมามีอำนาจอีกครั้ง หลังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจการใช้จ่ายเงินทองภายในวัดสระเกศ
รอยร้าวในวัดสระเกศรุนแรงขึ้น เมื่อปี 2558 มีการปลดเจ้าคุณเสนาะ พร้อมกับแต่งตั้งเจ้าคุณธงชัยขึ้นรักษาการเจ้าอาวาส จากปัญหาความไม่โปร่งใสในการบริหารงบจัดงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว 67 ล้านบาท ในสมัยที่เจ้าคุณเสนาะดูแลอยู่
25 มกราคม 2559 การกระทำอัตวินิบาตกรรม ด้วยการใช้ประคดผูกคอตาย ของพระพรหมสุธี ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจของชาวพุทธ
บทเรียนศึกชิงภูเขาทอง ทำให้คณะสงฆ์รุ่นใหม่ตั้งคำถามว่า ไทยจะเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาแห่งโลกได้ ก็ต้องแก้ปัญหาที่องค์กรตนเอง และได้เวลาสังคายนาพระสงฆ์ไทย

 

พระมีฤทธิ์!! กรณี "เจ้าคุณภูเขาทอง" รอวันสังคายนาสงฆ์ไทย

การเมืองเรื่องสงฆ์

นับแต่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเกมรุกเดินหน้าจัดการ “พระผู้ใหญ่” เรื่องเงินทอนวัด จึงมีปฏิกิริยาออกมาจากฝ่ายสงฆ์ทำนองว่า ผู้มีอำนาจรัฐทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติไม่รู้ และไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ของพระพุทธศาสนาที่กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างร้ายแรง
“ผอ.พงศ์พร” จึงตกเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง และมองว่า นี่เป็นแผนการ “ยึดวัดสระเกศ” เพราะเมื่อเจ้าคุณธงชัยหลุดจากตำแหน่ง มส. ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสายพระ ก็หลุดลอยโดยอัตโนมัติ ส่วนตำแหน่งเจ้าคณะภาค 10 นั้น เมื่อหลุดจาก มส. ก็คงอยู่ไม่ได้เช่นกัน แบบว่าหลุดเป็นพวง

พระมีฤทธิ์!! กรณี "เจ้าคุณภูเขาทอง" รอวันสังคายนาสงฆ์ไทย

พิษเงินทอนวัด ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มหาเถรสมาคม ว่าเป็นองค์กรที่ต่างมีเส้นสาย มีโควตาของใครของมัน สายวัดบวร วัดราชบพิธ วัดปากน้ำ วัดสระเกศ ฯลฯ ต่างตั้งตัวแทนเข้ามาสืบทอดอำนาจแทนพระผู้ใหญ่รูปเก่าที่เกษียนไป
เว็บไซต์ alittlebuddha.com เขียนบทความเรื่อง มส.รอวันสลาย โดยตอนหนึ่งระบุว่า  “คณะสงฆ์ไทยจึงเดินทางมาถึงวันนี้ วันที่ มหาเถรสมาคม ตกเป็นจำเลยของสังคม ถามถึงขั้นว่าถ้าจะปฏิรูปคณะสงฆ์ไทยให้ตรงจุด ก็ต้องยุบมหาเถรสมาคม รื้อ และร่างระเบียบกันใหม่ ให้มีการกระจายอำนาจลงสู่ส่วนล่างหรือส่วนภูมิภาค มิให้พระบ้านนอกสวมเครื่องแบบพระในกรุง กุมอำนาจกินบ้านกินเมืองอยู่แต่ในส่วนกลางอีกต่อไป และที่สำคัญก็คือ ป้องกันการผูกขาด ต้องมีเทอมดำรงตำแหน่งให้ชัดเจน รวมทั้งอายุพรรษาที่ไม่น่าจะอยู่ในตำแหน่งไป..จนตาย”

ปฏิบัติการรุ่งอรุณ ณ ดงขมิ้น อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปสงฆ์ไทย และการชำระสะสางปัญหาภายในองค์กรมหาเถรสมาคม

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – คมชัดลึก   http://www.komchadluek.net/news/scoop/327618

 

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *