คืบหน้ายิงถล่มรถกำนัน ผบช.ภ.5 เร่งตรวจสอบเบาะแสต้นต่อผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเอ พร้อมส่งชุดไล่ล่า
จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผค 4115 เชียงราย ส่งผลให้นายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต ซึ่งเป็นกำนัน ต.ปอ และยังเป็นประธานชมรมม้งแห่งประเทศไทยด้วย และลูกชายวัย 3 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางไหมเยีย วงค์นภาไพศาล ซึ่งเป็นภรรยาของนายทวีศักดิ์ และ ด.ญ.ธัญญาพร ยอดมณีบรรพต อายุ 5 ปี ลูกสาว เสียชีวิตคารถ เหตุเกิดบริเวณถนนสายบ้านร่มฟ้าทอง-บ้านผาตั้ง บ้านร่มฟ้าทอง หมู่ 10 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค.61) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช,ภาค 5 ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นทำตามหน้าที่โดยเน้นหลักชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก สำหรับในเรื่องของคดีนั้นทาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.และตนก็ได้มีการประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานและได้สั่งการไว้แบ่งงานแบ่งหน้าที่ให้แต่ละฝ่ายแต่ละบุคคลรับผิดชอบไปแล้ว ข่าวทุกข่าวกระแสทุกกระแสที่เราได้มาเราก็ต้องมีการตรวจสอบ แต่ละจุดแต่ละบุคคล และตอนนี้ก็กำลังพยายามรวบรวมหลักฐานที่จะดำเนินการให้ได้ และจากการตรวจสอบก็รู้สาเหตุรู้ตัวกลุ่มบุคคล มาถึงตรงนี้ ทางเจ้าหน้าที่ต้องมาแยกแยะ เพราะว่าคดียิงหรือคดีทำร้าย ต้องสืบให้รู้ว่ามีใครเป็นคนยิง ตรงนี้ที่เราต้องหาให้ได้หาคำตอบต้องนี้ให้ได้พร้อมกับพยานหลักฐาน มีการรื้อคดีเก่า ของกลุ่มเป้าหมายเพื่อมาดูว่ามีการเชื่อมโยงกันหรือไม่คดีที่มีการลอบยิงกันเมื่อครั้งที่แล้ว ซึ่งเราก็ตรวจสอบอยู่ย้งไม่แน่ชัดทีเดียว
สำหรับอาการของผู้ถูกยิงนั้น ทราบว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ส่วนกำนันหากได้กลับไปรับการรักษาตัวต่อที่บ้าน และจะขอกำลังไปอารักขาหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการร้องขอ หากร้องขอมาเราก็ดำเนินการให้ แต่เราก็คงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะว่าถือว่ากำนันนั้นเป็นพยานที่ใกล้ชิดกับที่เกิดเหตุคนหนึ่ง
ผบช.ภาค 5 กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามคดีนี้จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นชายแดน ก็รู้อยู่แล้วเกิดตามแนวชายแดนและเป็นเหตุเกิดในกลุ่มคนซึ่งเป็นชนเผ่า ถามว่าเจาะข่าวง่ายไหม? แค่ภาษาถ้าเขาพูดภาษาอื่นก็ไม่เข้าใจแล้ว แต่ตำรวจก็ต้องใช้ความพยายาม ใช้วิชาการสืบสวนสอบสวนเข้าไปทำการให้สำเร็จ แต่เราก็ได้ข่าวมาเยอะมีการกรองมีการตรวจสอบ เช็ค ทำทุกอย่าง ตัวผู้บาดเจ็บเขาก็ให้ข้อมูลกับทางเรามาเยอะ
สำหรับตำรวจภาค 5 และชุดสืบสวนภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข รักษาการ ผบช,ภาค 5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช,.ภาค 5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.,ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 ที่ลงพื้นที่ลงหาข่าวและทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ นั้น ตอนนี้ ได้เบาะแสคืบหน้าไปมาก โดยทางตำรวจได้นำหลักฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลอกกระสุนปืน,ก้นบุหรี่ ,กระป๋องน้ำอัดลม ที่อยู่ตรงจุดกลุ่มคนร้ายซุ่มดักยิง ส่งไปตรวจ ดีเอ็นเอ อยู่ในขณะนี้
โดยคาดว่าผลน่าจะประมาณไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายบุคคลนั้นทางชุดสืบสวนได้นำคดีค้างเก่า ที่มีอดีต พลทหารเกณฑ์ คนหนึ่งเป็นทหารไทยชนเผ่าม้ง และเคยก่อคดีลอบยิงมาแล้วในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน มาทำการตรวจสอบประวัติ โดยพลทหารเกณฑ์ดังกล่าวนั้นเคยเป็นพลทหารเกณฑ์ไทย ชนเผ่าม้ง ทางตำรวจเชื่อว่า น่าจะเป็นผู้รับงานนี้โดยไปเอาสมัครพรรคพวกมา โดยอดีตพลทหารม้งรายนี้รู้จักกำนันเป็นอย่างดี รู้เส้นทางการเดินทางของกำนัน จนเป็นที่มาของการไปดักซุ่มยิงดังกล่าว ประกอบกับทางตำรวจมีหลักฐานบางอย่างของ อดีตพลทหารรายนี้แล้ว และรอผลตรวจดีเอ็นเอ หากตรงก็จะเสนอขออนุมัติหมายจับต่อไป ตอนนี้ทราบมาว่า อดีตพลทหารรายนี้ได้หนีข้ามไปฝั่งลาวแล้วพร้อมกับพวกที่ร่วมกันก่อเหตุ แต่หากหลักฐานออกมาชัดเจนแล้วและตรงกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวการติดตามตัวโดยประสานกับทางประเทศเพื่อนบ้านคงไม่ยากซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างรอผลตรวจดีเอ็นเออยู่
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์ http://www.chiangmainews.co.th/page/archives/707941