เป็นเรื่องที่ได้รับการแชร์โดยเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ว่า แฟนได้เสียชีวิตในเรือนจำ ทั้งที่ใกล้จะพ้นโทษแล้ว โดยทางเรือนจำ ได้แจ้งว่า ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่าศพมีรอยทำร้ายร่างกายเขียวช้ำไปทั้งตัว โดยผู้คุมได้แจ้งว่า โดนซ่อมทั้งหมด 18 คน แต่มีเพียงคนเดียวที่เสียชีวิต โดยพบว่าหนุ่มรายดังกล่าวต้องโทษ 2 ปี และเหลืออีกประมาณ1 ปีจะพ้นโทษ (อ่าน สาวร้องแฟนหนุ่มใกล้พ้นโทษ แต่กลับโดนซ่อมตายคาเรือนจำ ไม่ได้กลับบ้านมีลมหายใจ!)
วันนี้ 20 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายกฤษณ์ วงษ์เดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยนายกฤษณ์ วงษ์เดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงาน ทราบว่าเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่าน ได้มีคนส่งจดหมาย ซึ่งตัวจดหมายมีลักษณะโป่ง คล้ายกับมีของนิ่ม ๆ อยู่ข้างใน ทางเจ้าหน้าที่ได้นำจดหมายซองดังกล่าวไปสอบถามตามแดนต่าง ๆ ทั้งแดน 1 แดน 3 และแดน 2 ก็ปรากฏไม่มีตัวตนเพราะว่าในการส่งจดหมายเข้ามา ถ้าเกิดมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ข้างในจะไม่มีการใส่ชื่อจริง เพราะถ้าเป็นชื่อจริงก็จะรู้ เจ้าหน้าที่เลยซ้อนแผน ตัดเปิดซองตรวจสอบได้พบว่าภายในซองจดหมายดังกล่าวมียาเค แบบผงสีขาวซุกซ่อนอยู่ด้านใน ตรวจสอบทางเคมีพบว่าเป็นสีม่วง
จากนั้นได้ทำการปิดซองดังกล่าวเข้าเหมือนเดิม ซึ่งดูจากการจ่าหน้าซองแล้ว มีตราของไปรษณีย์ที่ประทับอยู่แต่ไม่ชัดว่าน่าจะเป็นแดน 5 จึงนำจดหมายดังกล่าวไปที่แดน 5 โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจับตาดูว่าจะมีใครมาหยิบจดหมายฉบับดังกล่าวไป ก็แสดงว่าเป็นของคนนั้น พักใหญ่ขณะที่เจ้าหน้าที่เผลอหันมาดูพบว่าซองจดหมายได้หายไปแล้ว คือ มีไป 2 ซอง หายไป 1 ซอง จึงนำกำลังเข้าจู่โจมเข้าตรวจค้น และได้พบจดหมายฉบับดังกล่าวไปซุกอยู่ที่กองพัสดุที่มีโต๊ะว่างอยู่ เอาจดหมายไปแทรกเอาไว้
นายกฤษณ์ กล่าวต่อว่า จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เอามาสอบสวนข้อเท็จจริง ก็พบว่า ทั้งซองจดหมายและลายเซ็นที่ส่งเข้ามาหาผู้ต้องขังที่เสียชีวิต คล้ายกับลายมือที่อยู่บนซองจดหมายดังกล่าว จึงเรียกตัวมาสอบสวน และยอมรับว่าเป็นยาเสพติด จึงได้ดำเนินการลงโทษด้วยการฝึกระเบียบวินัย ตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่มีการลงโทษรุนแรงด้วยวิธีใด ต่อมาในตอนเย็นของวันเดียวกัน ก็ได้รับแจ้งว่าผู้ต้องขังมีอาการหน้าซีดและมีอาการไม่ดี ซึ่งตอนนั้นเราก็มีแพทย์ของโรงพยาบาลบางบ่อ มาตรวจรักษาอยู่ในเรือนจำพอดี จึงได้เข้ามาให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลบางบ่อ และได้ทำการช่วยชีวิตอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งทางเรือนจำได้สอบถามไปทางหน้าที่ของเรือนจำ ก็ได้รับรายงานว่าไม่ได้มีการทำร้ายแต่อย่างใด แต่ใช้วิธีการแบบการฝึกระเบียบวินัย และก็ลงโทษตามกฎระเบียบ
“ก่อนหน้านี้ก็มีการลงโทษกันอยู่เท่าที่ได้รับรายงาน เพราะว่ายาเสพติดเป็นนโยบายหลักของประเทศ ที่ทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องประสบกับปัญหาเสียชื่อเสียงมาโดยตลอด เพราะฉะนั่นเจ้าหน้าที่ทางเรือนจำก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด คือการลงโทษบางทีมันแบบว่า บางทีก็ได้ดำเนินการไปเช่นกันบางที่เราดำเนินการไปเหมือนกันแต่ว่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้ว่าใครมีโรคประตัวอะไรมีข้อบกพร่องอะไรอยู่ในตัว”นายกฤษณ์ กล่าว
หลังจากนี้ทางเรือนก็ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน เอาไว้แล้ว และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อจะสอบหาผู้ที่กระทำผิด เพื่อจะดำเนินการตามระเบียบวินัยของทางราชการ โดยแจ้งความทั้งในคดีอาญา ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมในชั้นของตำรวจก็จะเข้ามาสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริง และจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_987016