สงครามระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เมืองทาไน ในรัฐคะฉิ่นซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองทองและเหมืองอำพันหลายแห่ง เหตุสงครามและความไม่สงบทำให้ชาวบ้านราว 2,000 คน ในพื้นที่ตัดสินใจทิ้งบ้านของตัวเองและหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า และขณะนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ขณะที่ยังไม่มีท่าทีใด ๆ จากทางการพม่าว่าจะเร่งให้ความช่วยเหลืิอผู้หนีภัยสงครามเหล่านี้อย่างไร จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยงานบรรเทาทุกข์ท้องถิ่นเปิดเผยว่า เหตุสู้รบกันระหว่างฝ่ายทหารพม่าและทหารคะฉิ่น KIA เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะใน 3 หมู่บ้าน อย่างหมู่บ้านซัดอย่าง ซัดยา และหมู่บ้านอ่องลอด ในเขตเมืองทาไน ทำให้หลายครอบครัวตัดสินใจหนีเข้าไปหลบภัยอยู่ในป่า
และขณะนี้กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยชนอย่างเร่งด่วน ทางหน่วยงานบรรเทาทุกข์ยังเผยว่า กระบวนการช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในจากสงครามสามารถดำเนินการได้โดยรัฐบาลพม่าและกองทัพเท่านั้น ทางกลุ่มไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ นอกจากนี้มีรายงานว่า ได้มีการส่งจดหมายไปยังรัฐมนตรีรัฐคะฉิ่น รวมไปถึงนายวินมิ้น ประธานาธิบดีคนใหม่ นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ พลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผบ.สส.ของกองทัพพม่า และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เร่งช่วยเหลือผู้หนีภัยสงคราม ในจดหมายยังระบุด้วยว่า ระหว่างที่กองทัพพม่าใช้เครื่องบินรบโจมตีเมืองทาไนเมื่อวันที่ 11 เมษายน ทำให้ชายวัย 22 ปี เสียชีวิตคาที่ และพ่อของชายคนดังกล่าวยังได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ชาวบ้านจากพื้นที่อื่นๆ ที่มาร่วมงานครบรอบ 50 ปี ของการก่อตั้งโบสถ์คาทอลิกในพื้นที่ ต้องติดอยู่ที่โบสถ์ดังกล่าวไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้หลังเกิดสงคราม ด้านพันเอก นอว์บู โฆษกของ KIA เปิดเผยกับสื่อว่า ทราบข่าวว่ามีชาวบ้านได้หนีเข้าป่าจากเหตุสงครามแล้ว โดยรู้สึกเสียใจ และระบุว่าจะไม่ทำร้ายพลเรือน โดยยังเปิดเผยอีกว่า ทางกองทัพพม่าได้ยิงอาวุธหนัก เช่น จรวด โจมตีกองพลที่ 14 ของ KIA ในเมืองทาไน นอกจากนี้โจมตีฐานบัญชาการใหญ่ของ KIA ในเมืองไลซา ซึ่งทางกองทัพพม่ายังคงโจมตีทาง KIA อย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ ทาง KIA ได้ออกมาเตือนแรงงานผิดกฎหมายที่มาทำงานในเหมืองทองและในเหมืองอำพันหลายแห่งในเมืองทาไนให้เร่งออกจากพื้นที่ เนื่องจาก KIA เตรียมต่อต้านกองทัพพม่าด้วยวิธีการรบแบบกองโจร หลังทาง KIA ออกมาประกาศได้ไม่นาน กองทัพพม่าได้โจมตี KIA อย่างหนัก ที่มา DVB แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=18793 .