ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจับอดีตนักการเมืองชื่อดัง

ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจับอดีตนักการเมืองชื่อดัง

ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจับอดีตนักการเมืองชื่อดัง “นวัธ เตาะเจริญสุข” จ้างวานฆ่า ปลัด อบจ.ขอนแก่นคาดหนีออกนอกประเทศ

p2

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 12 เม.ย. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ขอนแก่น รายงานว่า ศาลจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 3 เมษายน 2561 ได้ออกหมายจับ นายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีตนักการเมืองระดับท้องถิ่น และ ระดับชาติ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เลขที่ จ.80 / 2561 ความอาญา ร.ต.อ.สิงหา หงส์อ่อน รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่น ผู้ร้อง ซึ่งหมายถึง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ด้วย นายนวัธ เตาะเจริญสุข ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ จ้าง วาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

          กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่า นายนวัธ เตาะเจริญสุข สัญชาติไทย อาชีพข้าราชการการเมือง อยู่บ้านเลขที่ 24/ 9 หมู่ 1 ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่ง1.ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี 2. ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่า และมีเหตุอันควรว่าจะหลบหนี ซึ่งมีอายุความ 20 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2556 ถึง 2 พฤษภาคม 2576

p1

สืบเนื่องจากคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมด 5 คน มี ด.ต. วีระศักดิ์ ชำนาญผล จำเลยที่ 1 , พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม รอง ผกก.(ป)สภ.หนองเรือ จำเลยที่ 2 , นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 ,นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 และ นายปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5

และ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ได้พิพากษาตัดสินประหารชีวิต จำเลยที่ 2 คือ พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม ส่วนอีก 4 คน ศาลได้ตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ซึ่งเป็นการพิพากษาแก้จาก ศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 โดยคำพิพากษาระบุว่า พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม จำเลยที่ 2 และนายประพันธ์ ศรีวิลัย จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ด้วยเหตุแห่ง พฤติกรรมมีการลงไปพูดคุยและผลักผู้ตายเข้าไปในรถ ประกอบกับรถที่จอดขวางผู้ตาย มิใช่ลักษณะเตรียม พร้อมจะหลบหนี จึงไม่น่าเป็นเรื่องที่ตั้งใจทำ เพราะถ้าเช่นนั้นก็ต้องมีการยิงเลย แต่มีการพูดคุย มีการทำร้าย ร่างกายแล้วจึงลงมือยิง จึงพิพากษาจำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นให้จำคุกตลอดชีวิต แต่จำเลยที่ 3 ให้การเป็นประโยชน์เป็นเหตุให้บรรเทาโทษให้ 1 ใน 4 รวมกับความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน คงให้จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตสถานเดียว

จำเลยที่ 3 รวมโทษจำคุก 37 ปี 14 เดือน 30 วัน ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 4 และ 5 ซึ่งให้การ ปฏิเสธตลอดว่าไม่เกี่ยวข้อง และพยานหลักฐานไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยที่ 3 รู้มาก่อนว่าจำเลยที่ 2 และ 3 จะมาฆ่าผู้ตาย จึงให้ยกฟ้อง และจากนั้นจำเลยที่ 2 และ 3 ได้มีการอุทธรณ์เช่นเดียวกับฝ่ายผู้เสียหาย

ต่อมา เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2559 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้ เป็นให้ลงโทษจำเลยทั้ง 5 คน ฐานร่วมกันฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และให้ลงโทษประหารชีวิตทั้งหมด แต่เนื่องจาก ด.ต.วีระศักดิ์ จำเลยที่ 1 นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 นายปิยะพงษ์ มีกำปัง จำเลยที่ 5 ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของศาลจึงลดโทษเป็น 1ใน 3 เป็นให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต มีเพียง พ.ต.ท.สมจิต จำเลยที่ 2 เท่านั้นที่ได้ให้ลงโทษสูงสุดคือประหารชีวิต คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ของศาลฎีกา

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปยังนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 8 ขอนแก่น ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายสุชาติด้วย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา จ้างวานฆ่า นายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดอบจ.ขอนแก่น ด้วย ซึ่งอธิบดีอัยการภาค 4 ได้มีคำสั่งฟ้อง และจนออกหมายจับในครั้งนี้ เนื่องจากเชื่อได้ว่ามีการหลบหนี โดยมีรายงานว่านายนวัธผู้ต้องหาน่าจะหลบหนีไปต่างประเทศตั้งแต่ก่อนออกหมายจับซึ่งคาดว่าไปอยู่ประเทศฟิลิปปินส์.

ก่อสิทธิ์ กองโฉม ขอนแก่น / รายงาน

แหล่งข่าวจาก –  นสพ.ไทยเสรีออนไลน์

 

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *