วอนกองทัพพม่าหยุดขยายพื้นที่ ชาวบ้านกะเหรี่ยงเดือดร้อนหนักหนีตายเข้าป่านับพัน

เว็บไซต์ข้อมูลภาษากะเหรี่ยง For the Love of Karen รายงานข่าวว่า เมื่อวานนี้ (19 มีนาคม 2561) ประชาชนผู้พลัดถิ่นชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในเขตสันติภาพสาละวิน (Slween Peace Park)ได้ออกแถลงการณ์กรณีที่กองทัพพม่าได้ขยายพื้นที่กองกำลังในรัฐกะเหรี่ยงจนส่งผลให้ประชาชนนับพันต้องหนีภัยการสู้รบและต้องเป็นผู้พลัดถิ่นในขณะนี้ แถลงการณ์มีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า เป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้วที่ชาวบ้านต้องเผชิญภัยนี้ โดยชาวบ้านจำนวนประมาณ 1,000 คน จาก 12 หมู่บ้านได้มาประชุมหารือกันเพื่อหาแนวทางเกี่ยวกับความปลอดภัยของชุมชน ตลอดจนความช่วยเหลือทางมุษยธรรม

โดยได้ร่วมกันจัดพิธีตามประเพณีดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง ในการภาวนาเพื่อสันติภาพ เสรีภาพ อิสรภาพจากความกลัว และสิทธิในการกำหนดอนาคตของตนเอง “พวกเราชาวบ้านในจังหวัดมือตรอว์ รัฐกะเหรี่ยง ได้เอาชีวิตแทบไม่รอดจากภัยสงครามที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งนำมาสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยกองทัพพม่า ตั้งแต่ปี 2012 มีความพยายามในระดับทวิภาคีเพื่อสร้างสันติภาพที่แท้จริงแก่แผนดินแม่ของเรา พวกเราได้ร่วมกันสร้างเขตสันติภาพสาละวิน ซึ่งมีเนื้อที่ 5,400 ตารางกิโลเมตร โดยชนเผ่าพื้นเมืองชาติพันธุ์กะเหรี่ยงมุ่งให้เป็นพื้นที่สันติภาพ ตลอดจนเป็นพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม เป็นเวลาหลายปีที่พวกเราพยายามฟื้นคืนชุมชนดั้งเดิมอันเสียหายยับเยินจากภัยสงคราม ฟื้นฟูการจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยชุมชน และร่วมกันสร้างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” ในแถลงการณ์ระบุ ในแถลงการณ์ระบุอีกว่า “พวกเราที่กำลังหนีตายจากการรุกรานของทหารพม่าในขณะนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ 15 หมู่บ้านซึ่งร่วมกันประกาศป่าชุมชนในพื้นที่อันเป้นป่าแก่ ป่าดั้งเดิมที่เป็นแหล่งพันธุ์พืชและสัตว์ที่สมบูรณ์ แต่การกระทำของกองทัพพม่าในขณะนี้สร้างความเดือดร้อนและเสียหายอย่างใหญ่หลวง” นายซองากีทู ผู้เฒ่าชาวกะเหรี่ยงกล่าวว่า เขตสันติภาพสาละวินเป็นสิ่งที่สร้างสายสัมพันธุ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ แต่การกระทำของกองทัพพม่ากำลังทำร้ายชาวบ้าน และทำลายการจัดการป่าและทรัพยากรธรรมชาติโดยพิธีกรรมและจิตวิญญาณ ทั้งนี้ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนชาวกะเหรี่ยงกว่า 1,700 คน ทั้งคนชรา เด็ก และสตรี ต้องหนีภัยการสู้รบเข้ามาซ่อนตัวในป่าในเขตภูเขาสูง ซึ่งหนาวเย็นในเวลากลางคืน ประชาชนเหล่านี้ต้องเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารและยา ตลอดจนโรคภัยต่างๆ โดยกองทัพพม่าพยายามที่จะตัดถนนใหม่และปรับปรุงถนนในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงด้วยเหตุผลทางด้านการทหาร ขณะที่ชาวบ้านได้เรียกร้อง 1 ให้ถอนกองกำลังทหารพม่ากลับสู่ค่ายเดิม 2 ระงับการก่อสร้างถนนจากค่ายโทหม่อเปลเหม่ ถึงต่ายส่าลอโจ่ 3 ให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์ส่งความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านผ่านองค์กรชุมชนกะเหรี่ยง 4 ให้ผู้นำสหภาพชนชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองทัพพม่า ดำเนินการถอนค่ายทหารพม่า 17 แห่งที่ระบุไว้แล้วใน จ.มือตรอร์ เนื่องจากเป็นค่ายทหารพม่าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชาวบ้าน และสร้างผลกระทบต่อชีวิตและวิถีชีวิตของชาวบ้าน และ 5 ให้กองทัพพม่าและรัฐบาลนานาชาติตระหนักถึงโครงสร้างการบริหารจัดการของรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งครอบคลุมถึงการจัดการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ การศึกษา และสาธารณสุข

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=18583 .

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *