ศุลกากรหนองคายขนเงิน 98 ล้านบาทสองพี่น้องชาวลาวเข้าธนาคารกรุงไทย สาขาหนองคาย เก็บรักษา ด้านคดีศุลกากรเร่งสรุปสำนวนส่งกรมศุลกากรพิจารณาระงับคดีในชั้นศุลกากร หลังผู้ต้องหาชาวลาว 2 คนยืนยันยกเงินทั้งหมดให้ตกเป็นของแผ่นดิน
กรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย ตรวจค้นรถยนต์แลนด์ครุยเซอร์ สีทอง ติดป้ายทะเบียนของ สปป.ลาว กก-1844 กำแพงนคร มีนายสุบัน เตยสิริ อายุ 30 ปี และนายคำบอน เตยสิริ อายุ 24 ปี สองพี่น้องชาวลาว เป็นคนขับและโดยสาร พบภายในรถมีธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท มัดเป็นปึก โดยใช้กล่องนมปิดทับด้านบน และพบมัดซุกซ่อนกระจายไว้รอบคัน แม้แต่ในห้องเครื่องรถยนต์ก็บรรจุธนบัตรไว้และตามซอกต่างๆ ในรถ รวมแล้ว 98 ล้านบาท จนท.คาดว่าเป็นเงินที่มาจากการทำธุรกรรมสีดำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย นำเงินสด 98 ล้านบาท ซึ่งใส่กล่องพลาสติก 2 กล่อง มายังธนาคารกรุงไทย สาขาหนองคาย เพื่อให้ธนาคารเก็บรักษาเงินทั้งหมดไว้ จนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารรับมอบเงินและตรวจสอบเงินจนครบจำนวนทั้ง 98 ล้านบาท
นายนิมิตร กล่าวว่า นายสุบัน เตียสิริ และนายคำบอน เตียสิริ สองพี่น้องชาวลาว ยอมรับว่ากระทำผิดด้วยการลักลอบนำเงินบาทออกนอกประเทศจริง และยอมทำตามระเบียบข้อบังคับทุกประการ ด้วยการขอยุติคดีในชั้นศุลกากร ซึ่งในวันนี้ทางศุลกากรจะสรุปสำนวนส่งกรมศุลกากร เพื่อพิจารณาเห็นชอบคำขอยุติคดีในชั้นศุลกากร โดยหลักเกณฑ์ของศุลกากรจะเปรียบเทียบปรับ คนละ 20,000 บาท คืนเงินให้คนละ 2 ล้านบาท นั่นคือ จะปรับทั้งสองคนเป็นเงิน 40,000 บาท คืนเงินให้เป็นเงิน 4 ล้านบาท แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการพิจารณาของกรมศุลกากรว่า จะมีความเห็นเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งการเห็นตามหลักเกณฑ์นี้ หรือพิจารณาลงโทษยึดเงินทั้งหมดเข้าหลวง
ส่วนระยะเวลาการพิจารณาคดียุติยังไม่สามารถกำหนดวันพิจารณาคดีสิ้นสุดได้ จึงทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศลาวได้ แต่หากทั้งสองคนลักลอบหลบหนีการประกันตัว ก็จะถูกดำเนินคดีอาญาทั้งในประเทศไทยและในประเทศ พร้อมริบเงินของกลางทั้งหมด
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_668310