วาระการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น TBC เมียนมา – ไทย ครั้งที่ 91

 

 เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.60 เวลา 09.00 น. พันเอก กิดากร  จันทรา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย–เมียนมา  (อำเภอแม่สาย)  ฝ่ายไทย  และ พันโท หยางจีอ่อง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 226 ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา – ไทย (TBC) ฝ่ายเมียนมา                   (จังหวัดท่าขี้เหล็ก) ได้เป็นประธานร่วมในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น TBC  ครั้งที่ 91 โดยทางฝ่ายเมียนมา เป็นเจ้าภาพ ณ. ห้องประชุมโรงแรมซานหมุ่นอาข่า จังหวัดท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

      โดยในวาระการประชุมข้อหารือของฝ่ายไทย – ฝ่ายเมียนมา มีข้อหลักๆสำคัญ  ดังนี้

  1. การร่วมมือกันในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน ตามบันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – เมียนมา (RBC) ครั้งที่ 31 เมื่อวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2560 ณ. จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย เกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ  ในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อแก้ไขปัญหาข้ามชาติเรื่อง ยาเสพติด การค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ การลักลอบตัดไม้ และการก่อการร้าย ดังนั้น ฝ่ายไทยจึงเสนอขอให้ฝ่ายเมียนมาพิจารณาความร่วมมือกันระหว่างทหารไทยกับ ทหารเมียนมา ที่วางกำลังตามแนวตะเข็บชายแดน ทำการลาดตระเวนทางน้ำโดยใช้เรือร่วมกันในแม่น้ำรวก เดือนละ 4 ครั้ง   การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งของฝ่ายเมียนมา จำนวน 2 แห่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทยว่าฝ่ายเมียนมา จะก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง จำนวน 2 แห่ง บริเวณแม่น้ำสาย–แม่น้ำรวก ซึ่งได้บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสหภาพเมียนมา เกี่ยวกับเขตแดนคงที่ช่วงแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก ข้อที่ 5 ของภาคีทั้งสองประเทศ จะปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ร่วมกันในการใช้น้ำในแม่น้ำสาย – แม่น้ำรวก อย่างเป็นธรรมและเพื่อบำรุงรักษาและอนุรักษ์ทางเดินปัจจุบันของแม่น้ำตามบันทึกการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมกัน (JBC) ไทย – เมียนมา ครั้งที่ 7 ในวรรค 7 และการประชุมคณะกรรมการชายแดน ส่วนภูมิภาค (RBC) ครั้งที่ 29 โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพในวันที่ 20 – 22 พฤษภาคม2558 ที่ จ.เชียใหม่ใหม่โดยการก่อสร้างต้องรายงานและส่งแบบก่อสร้างผ่านช่องทางการทูต และช่องทางคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อตรวจสอบร่วมกัน แต่หากไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย ภายใน ๒ เดือน และไม่มีผลกระทบต่อตลิ่งฝั่งตรงข้ามก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ดังนั้นฝ่ายไทย จึงขอให้ฝ่ายเมียนมา ดำเนินการนำเสนอแบบแปลนการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งทั้งสองแห่งพร้อมบัญชีรายละเอียดวัสดุการก่อสร้าง ส่งให้กับฝ่ายไทย เพื่อตรวจสอบร่วมกันต่อไป  3.โครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันกำหนดกิจกรรมที่จะดำเนินการระหว่างหมู่บ้านคู่ขนานฯ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ ประกอบด้วย การแลกเปลี่ยนกิจกรรมทางวัฒนธรรม, การแข่งขันกีฬา, การให้ความรู้ทางด้านสาธารณสุข, การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม และการสนับสนุนโครงการพัฒนาชีวิตตามหลักเศรษฐกิจแบบพอพียง ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้เสนอให้ฝ่ายเมียนมา ดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านคู่ขนานฯ เพิ่มขึ้นโดยฝ่ายเมียนมา ยินดีเข้าร่วมโครงการฯ  ซึ่งปัจจุบันฝ่ายไทย  ได้สำรวจข้อมูลหมู่บ้านของทั้งสองฝ่ายในการจัดกิจกรรมฯ รวม 13 หมู่บ้าน ผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา – ไทย (TBC) จังหวัดท่าขี้เหล็ก เพื่อตรวจสอบและพิจารณาให้ตรงกับความต้องการของฝ่ายเมียนมา เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรม  4. การติดตามบุคคลและผู้กระทำความผิดที่หลบหนี ตามหมายจับ ได้ประสานฝ่ายเมียนมา ติดตามตัวผู้ต้องหา นายอภิวิชญ์  สอาดดี หรือ อาทร์ ต่ำเอี่ยว  อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ 7 ต.คลองสอง อ.คลองแสง จังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยไม่ใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน 4.2 และติดตามตัวติดตาม นายณภัทร  สว่างศรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม.๕ ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธ และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.2 ติดตามตัว นายคินหม่องวิน อายุ 49 ปี และนางฮัวฮัววิน อายุ 47 ปี สองสามีภรรยาสัญชาติเมียนมา ได้ทำการลักทรัพย์ นางปิยะมาศ ศรีทรัพย์ ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม.ที.เอ. ( นายจ้าง ) เป็นเงินสดมูลค่า 15 ล้านบาทสกุลเงินไทย ที่ได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ปัจจุบันฝ่ายไทย ได้ส่งเอกสารถึงฝ่ายเมียนมาเรียบร้อยแล้ว จึงขอทราบความคืบหน้าในการติดตามตัว  4.3  ติดตามตัว นายอะตะผะ เล่าหมี่ อายุ 20 ปี และนายบัญชา เล่ายี่เปา อายุ 23 ปี  ผู้ต้องหาร่วมกันพยายามฆ่าและฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ปัจจุบันผู้ต้องหาได้หลบหนี ออกจากประเทศไทยไปอยู่ในพื้นที่ บ.นากองมู และบ้านห้วยน้ำขุ่น สาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ด้านตรงข้ามช่องกิ่วผาวอก ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางการไทยได้ส่งเอกสารถึงฝ่ายเมียนมาเรียบร้อยแล้ว จึงขอทราบในการติดตามตัวผู้ต้องหา 5.ขอความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติด  ในห้วงที่ผ่านมาถึงแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมุ่งมั่นในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงปรากฏข่าวสารและการจับกุมผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน  ด้าน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ได้อยู่ตลอดที่ผ่านมา คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น                ไทย – เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย อ.แม่สายฯ จึงขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย ได้ประสานกันอย่างใกล้ชิด ทั้งทางด้านการข่าว และเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้น และปราบปราม ยาเสพติด ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อความสงบเรียบร้อยตามแนวตระเข็บชายแดนของทั้งสองประเทศ  6.โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ฝึกซ้อมระดมพลดับไฟป่า และจัดทำแนวกันไฟ 3 แผ่นดิน    (ไทย – ลาว – เมียนมา)  ในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน – ต้นเดือน ธันวาคม 2560 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดให้มีกิจกรรมตามโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ฝึกซ้อมระดมพลดับไฟป่า และจัดทำ          แนวกันไฟ 3 แผ่นดิน (ไทย – ลาว – เมียนมา) ณ พื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน   จังหวัดเชียงราย โดยมีกิจกรรมนักปั่นอาสาไฟป่าไทย-ลาว-เมียนมา, กิจกรรมฝึกซ้อมร่วมปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า และการจัดทำแนวกันไฟ 3 แผ่นดิน ไทย- ลาว – เมียนมา ซึ่งเป็นการร่วมฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มทักษะการบูรณาการ และขยายผลเสริมสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันระหว่างประเทศ จึงขอเรียนเชิญผู้นำและราษฎรฝ่ายเมียนมา เข้าร่วมกิจกรรมสำหรับวัน เวลา ที่แน่ชัดจะนำเรียนประสานอีกครั้งหนึ่ง  7. เรื่องขอบคุณฝ่ายเมียนมา การติดตามตัวคนไทย

  ตามที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้รับการประสานจาก อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี  ขอความร่วมมือประสานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา – ไทย (TBC) ฝ่ายเมียนมา ให้ช่วยเหลือ นายปฏิภาณ  เพลินสุข หรือ แบ้งค์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 20 ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเดินทางเข้าไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2560 และถูกจับฐานความผิดเกี่ยวกับคนเข้าเมือง ทั้งนี้ ฝ่ายเมียนมา ได้ติดตามช่วยเหลือส่งตัวให้กับฝ่ายไทย ในวันที่ 30 สิงหาคม 2560  จากความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาตามแนวตระเข็บชายแดนและการเข้าร่วมกิจกรรม คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย อำเภอแม่สาย ขอขอบคุณ  ส่วนราชการผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน และราษฎรเมียนมา ผ่านทางคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา – ไทย (TBC)  ฝ่ายเมียนมา จ.ท่าขี้เหล็ก ไว้ ณ.โอกาสนี้ และขอให้รักษามิตรภาพที่ดีของบ้านพี่เมืองน้องทั้งสองประเทศต่อกันตลอดไป

 ///////////  แหล่งข่าวจาก – กิจการพลเรือน ฉก.ม.3  //////////

 ////  ณฐพัชร์  อภิโชคกุล  หัวหน้าศูนย์ข่าวเบาะแสภาคเหนือ   บก.เจี๊ยบแม่สายนิวสืออนไลน์  /////  รายงาน  ///////////

 

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *