สื่อพม่ารายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมชายจำนวน 7 คน ซึ่งทางการอ้างว่าเป็นเครือข่ายของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาและกำลังเดินทางเข้าย่างกุ้ง นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมชายอีก 3 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมขบวนการ โดยทั้งหมดกำลังถูกนำตัวไปสอบสวนเข้มที่สถานีตำรวจเขตอิรวดี ทางด้านตำรวจพม่าอ้างว่าเตรียมขยายผลเพิ่ม เนื่องจากยังพบมีผู้ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายอีก การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ในพื้นที่ซึ่งเกิดเหตุความรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าเปิดเผย สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่เมืองกั่นจี เขตอิรวดี ขณะที่ซ่อนตัวในรถบรรทุกข้าวสารที่กำลังเดินทางไปย่างกุ้ง จากคำเปิดเผยของคนขับรถได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่งในเมืองมินเบีย ในรัฐอาระกันให้นำชายทั้ง 7 คนมายังกรุงย่างกุ้ง เพื่อพบกับชายคนหนึ่งชื่อ อาบูล เซเด โดยชายทั้ง 7 คนได้จ่ายค่าจ้างให้คนขับรถคนละ 800,000 จั้ต (ราว 19,500 บาท) เพื่อเดินทางไปย่างกุ้ง
ขณะนี้ทั้งหมดได้ถูกนำตัวไปสอบสวนยังสถานีตำรวจในเขตอิรวดี ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าอ้างว่า กลุ่มสมาชิกกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาได้มีการเตรียมการและวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยนับจากนี้ตำรวจพม่าจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น และจะเร่งตรวจสอบว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกหรือไม่ มีรายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางการในเขตอิรวดีได้มีการรักษาความปลอดภัยเฝ้าระวังตามชายฝั่ง เนื่องจากหวั่นเหตุความความไม่สงบในรัฐอาระกันจะลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั้งนี้ เหตุการณ์ความรุนแรงในรัฐอาระกันได้ทำให้ชาวโรฮิงญาจำนวน 600,000 คนทะลักเข้าบังกลาเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับพม่าด้านรัฐอาระกัน ความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ชาวโรฮิงญาในรัฐอาระกัน ล่าสุด ทางยูนิเซฟได้ออกมารายงานว่า ผู้ลี้ภัยโรฮิงญาในบังกลาเทศนั้น ราว 340,000 นั้นเป็นเด็ก และขณะนี้กำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มสะอาด และไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่จากยูนิเซฟยังแสดงความเป็นห่วงสถานะของเด็กที่เพิ่งเกิดในบังกลาเทศ รวมไปถึงโรคระบาดต่างๆในเด็กชาวโรฮิงญา ที่มา Irrawaddy/DVB แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=17880 .