เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 5 ต.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส รรท.ผบช.น. เดินทางเข้าตรวจสอบ รถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ สีส้ม ทะเบียนป้ายแดง ส 5179 กทม. ซึ่งเป็นรถของกลุ่มคนร้าย 6 คนสวมหมวกได้โม่งบุกปล้นเงินสด 196 ล้านเยนจากลูกน้องนายภัทริศ แต้รัตนชัย อายุ 34 ปี นักธุรกิจซื้อขายทองคำ และเครื่องเพชรส่งขายประเทศญี่ปุ่น หลังนำเงินใส่กระเป๋ากลับจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยพบรถคันนี้จอดทิ้งไว้ริมถนนเลียบรฟม. ก่อนถึงแยกผังเมือง แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บพยานหลักฐาน และเก็บตัวตัวอย่างดีเอ็นเอเก็บไว้ตรวจเปรียบเทียบกับแก๊งคนร้าย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยถูกนำมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณถนนเลียบรฟม. ในเขตท้องที่ สน.ห้วยขวาง เป็นเวลา 2 วันแล้ว จึงเดินทางมาตรวจสอบก็พบรถกระบะฟอร์ดเรนเจอร์ สีส้ม ทะเบียนป้ายแดง ส 5179 กทม. ซึ่งคาดว่าเป็นรถของกลุ่มคนร้ายที่บุกปล้นเงินสด 196 ล้านเยนจึงให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเพื่อเก็บหลักฐานทั้งลายนิ้วมือแฝง และพยานหลักฐานต่างๆภายในรถยนต์เรียบร้อยแล้ว
“ส่วนคนร้ายจากการสืบสวนทราบว่า ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่กทม. อีกทั้งเงินที่ปล้นไปนั้นยังไม่ได้ถูกแบ่งออกแม้แต่อย่างใด ก่อนนำรถยนต์กระบะมาจอดทิ้งไว้ตรงสถานที่ดังกล่าวซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ร่วมกันก่อเหตุ แต่หลังจากที่นำรถมาทิ้งจะมีผู้ใดนำรถยนต์มารับหรือขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีขณะนี้ยังไม่สามารถระบุยืนยันได้แน่ชัด ทั้งนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนประสานให้พนักงานสอบสวนไปขอหมายศาลเพื่อทำการอนุมัติออกหมายจับจากศาลอาญารัชดาภิเษกอีกครั้ง นอกจากนี้หากสามารถจับกุมกลุ่มคนร้ายได้คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปแถลงข่าวที่สตช.หรือที่บช.น. ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า มีพลเมืองดีพบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ตรงจุดเกิดเหตุ ในลักษณะใช้ผ้าคลุมรถทั้งคันซึ่งผิดปกติจากรถที่นำมาจอดทั่วไป อีกทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุมีแต่รถทัวร์นักท่องเที่ยวนำมาจอดพักเป็นส่วนใหญ่ ก่อนตัดสินใจแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบในเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา เมื่อเปิดผ้าคลุมรถออกกลับพบเป็นสีส้มและทะเบียนตรงกับรถคันที่คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ ก่อนประสานให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบทันที โดยพบว่าประตูรถถูกล็อกไว้ให้ช่างทำกุญแจมาปลดล็อกออกก่อนเก็บหลักฐานภายในรถทั้งดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือแฝงเพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้รวม 3 ราย จากทั้งหมด 5 ราย โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_549796