ผลงานการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐไร้สัญชาติตามนโยบายรัฐบาลไทยที่จังหวัดแม่ฮ่องสอง มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด 548 คน
ในปี 2560 รัฐบาลมีนโยบายที่จะให้สถานะบุคคลเเก่บุตรของกลุ่มชนชาติพันธุ์ หรือบุตรของผู้ที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรและเกิดในราชอาณาจักรไทย ได้สิทธิ์ขอมีสัญชาติไทยให้ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายสัญชาติไทย และเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงได้ขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยสามารถอนุมัติให้บุตรของคนไร้รัฐ หรือไร้สัญชาติ ที่เกิดในราชอาณาจักรไทยและมีบิดามารดาได้อยู่อาศัยในราชอาณาจักรไทยติดต่อกันมาเป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 15 ปี ได้สิทธิ์ขอมีสัญชาติไทยตามกฎหมายสัญชาติมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง
ต่อมา เมื่อ 12 กันยายน 2560 เวลา 09.30 น. นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนเป็นคนสัญชาติไทย และมอบบัตรประจำตัวประชาชน สำหรับบุตรของชนชาติพันธุ์ หรือบุตรของผู้ที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ก่อนปี 2542 และมีคุณสมบัติเป็นคนสัญชาติไทยตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดดังกล่าวข้างต้น จำนวน 548 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา และบางรายได้รับทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ กำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วย โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ได้รับอนุมัติสัญชาติไทยในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ศาลาประชาคมอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเน้นย้ำให้ผู้ได้รับสัญชาติไทยครั้งนี้ ตั้งใจเล่าเรียนศึกษา และประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายตลอดจนศีลธรรมอันดีของสังคม เพื่อเป็นพลเมืองดีของชาติไทยต่อไป
ในการนี้ ผู้ได้รับอนุมัติสัญชาติไทยได้กล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และร่วมร้องเพลงชาติไทย เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อประเทศไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์
ในโอกาสนี้ นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ข้าราชการ และผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) จำนวน 6 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคล คสบ. (the Legal Status Network Foundation – LSNF) , ศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน (the Development Center for Children and Community Network – DCCN) , โครงการพัฒนาสิทธิ์ในสังคม (the Social Life Project – SLP) , มูลนิธิพัฒนาลาหู่ในประเทศไทย (Thailand Lahu Development Foundation – TLDF) , องค์กรยุติธรรมนานาชาติ (the International Justice Mission – IJM ) , และคริสตจักรภาคที่ 19 สภาคริสตจักรประเทศไทย (the 19th District of the Church of Christ in Thailand) ที่ได้มาร่วมงานกับเจ้าหน้าที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลของนักเรียน นักศึกษาเหล่านี้ ก็ได้เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวนี้ด้วยเป็นจำนวนมาก
The Royal Thai Government’s Major Achievement on Resolving Statelessness: Success Case in Mae Hong Son Province, Thailand
In 2017, the Royal Thai Government has geared up for granting proper legal status and Thai nationality to stateless persons born in Thailand to ethnic groups or to displaced persons who have resided in Thailand for a long time. The RTG has strong intention to facilitate the acquisition of Thai nationality with due process according to Thailand’s nationality laws and international human rights laws. To reach the goal, the Minister of Interior made the proposal to the Thai Cabinet to approve criteria and procedures on the acquisition of Thai nationality, by virtue of Section 7 bis paragraph two, for children born in Thailand to stateless parents who have resided in the country for not less than 15 years.
On 12 September 2017, at 9.30 hrs, Mr. Grisada Boonrach, Permanent Secretary for Interior chaired a citizenship ceremony at the Community Hall of Muang District, Mae Hong Son Province. This time, 548 formerly
stateless students, who were born to ethnic minorities or displaced persons residing in Thailand before 1999 and benefitted from the aforementioned Cabinet Resolution, received a Thai National ID Card directly from the Permanent Secretary.
The Permanent Secretary welcomed the new citizens with a sermon on legal and moral obligations. He also encouraged these students to dedicate themselves to education and make use of the education to contribute to the country as decent citizens of Thailand. At the ceremony, these new citizens affirmed the oath of Thai citizenship in front of a portrait of His Majesty King Maha Vajiralongkorn Bodindradebayavarangkun and sang the National Anthem to express their loyalty to Thailand and the monarch.
The ceremony was also attended by numbers of stakeholders in the Province including Mae Hong Son Governor – Mr. Suebsak Aiemwijarn, high-level provincial officials, Chief District Officers, other relevant governmental officials, and representatives of local NGOs which have closely engaged in resolving statelessness amongst students with Mae Hong Son’s government (e.g. the Legal Status Network Foundation (LSNF), the Development Center for Children and Community Network (DCCN), the Social Life Project (SLP), Thailand Lahu Development Foundation (TLDF), the International Justice Mission (IJM), the 19th District of the Church of Christ in Thailand).
ขอขอบคุณแหล่งข่าว จากข่าวคมชัดลึก http://www.komchadluek.net/news/breaking-news/295655