รวบกำนันแม่สายหนีประกันคดีฆ่าแรงงานไทยในญี่ปุ่น

ตำรวจกองปราบฯ รวบกำนันแม่สาย ครั้งที่สอง หลังหนีประกันคดีฆ่าแรงงานไทยในญี่ปุ่น

12 ก.ย. 60  เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป)  พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ป. ทำการจับกุมตัว นายบุญทา หรือ บุญฤทธิ์ จันทาพูน อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 101 หมู่ 1 ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย กำนันใน ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 387/2559 ลงวันที่ 22 มี.ค. 2559 ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้น ย้ายศพ เพื่อปิดบังการตาย และหลบหนีระหว่างการพิจารณาคดีของศาล โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งภายใน ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย

 

รวบกำนันแม่สายหนีประกันคดีฆ่าแรงงานไทยในญี่ปุ่น

 

พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2539 นายบุญทา ผู้ต้องหารายนี้ พร้อมด้วย นายศักดิ์สมุทร ยังมั่ง , นายมังกร สุทธดุก และนายชาตรี เครื่องสนุก ได้ร่วมกันก่อเหตุฆ่า นายประยุทธ งานดี และนางราตรี ด้วนเครือ สองแรงงานชาวไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยการจับศีรษะกระแทกกับขอบท่อระบายน้ำ และใช้เชือกผูกรองเท้ามัดคอจนเสียชีวิต เหตุเกิดใน จ.อิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น

 

รวบกำนันแม่สายหนีประกันคดีฆ่าแรงงานไทยในญี่ปุ่น

 

ต่อมาภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นสามารถติดตามจับกุมตัว นายศักดิ์สมุทร , นายมังกร และนายชาตรี เอาไว้ได้ พร้อมทั้งให้การยอมรับสารภาพว่าได้จ้างวานให้นายบุญทา ผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากไม่พอใจ และเชื่อว่าผู้ตายทั้งสองคนขโมยเงินจำนวน 1.5 ล้านเยนจากตู้เซฟ ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการลักทรัพย์ตู้ยอดเหรียญสาธารณะ ในขณะที่ทำงานอยู่ในประเทศญี่ปุ่นไป ส่วนนายบุญทา ผู้ต้องหารายนี้ภายหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศ กลับเข้ามากบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย

 

รวบกำนันแม่สายหนีประกันคดีฆ่าแรงงานไทยในญี่ปุ่น

 

อย่างไรก็ตาม ตามกระบวนการกฎหมายอาญา มาตรา 8 ว่าด้วยการทำผิดนอกราชอาณาจักร และคนไทยเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งสามารถดำเนินคดีภายในราชอาณาจักรไทยได้ เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ป. จึงได้ติดตามไปทำการจับกุมตัวนายบุญทา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งถูกส่งตัวให้ศาลอาญาดำเนินการตามกฎหมาย จากนั้นนายบุญทาได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดประกันตัวจำนวน 7 แสนบาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ระหว่างที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว นายบุญทากลับไม่ยอมมารายงานตัวต่อศาลตามกำหนด ซึ่งมีพฤติการณ์เข้าข่ายการหลบหนีคดี ทางศาลฯ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย จึงได้แจ้งและประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้อีกครั้ง

ซึ่งทางกองปราบฯ เองก็ได้ให้ความสำคัญกับคดีดังกล่าว จึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่า นายบุญทาได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย และเป็นพื้นที่เดิม ซึ่งเคยถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากย่ามใจไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะย้อนรอยกลับมาที่เดิมอีกครั้ง กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายบุญทาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าหลบหนีคดีหลังจากได้รับการประกันตัวนั้น นายบุญทายืนยันว่าไม่ได้หลบหนีไปไหน และยังคงพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังเดิม ประกอบอาชีพทำนา ขายน้ำพริก และเป็นกำนันอยู่ใน ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตามหาตัวไม่พบนั้น เพราะคงไม่คิดว่าตนจะกลับมาพักอาศัยอยู่ที่เดิม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้ศาลอาญารับตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – คมชัดลึก  http://www.komchadluek.net/news/crime/295339

 

 

 

 

 

 

 

ซึ่งทางกองปราบฯ เองก็ได้ให้ความสำคัญกับคดีดังกล่าว จึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่า นายบุญทาได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย และเป็นพื้นที่เดิม ซึ่งเคยถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากย่ามใจไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะย้อนรอยกลับมาที่เดิมอีกครั้ง กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายบุญทาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าหลบหนีคดีหลังจากได้รับการประกันตัวนั้น นายบุญทายืนยันว่าไม่ได้หลบหนีไปไหน และยังคงพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังเดิม ประกอบอาชีพทำนา ขายน้ำพริก และเป็นกำนันอยู่ใน ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตามหาตัวไม่พบนั้น เพราะคงไม่คิดว่าตนจะกลับมาพักอาศัยอยู่ที่เดิม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้ศาลอาญารับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *