เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์(10 ก.ย.) ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกลุ่มชาวพม่าชาตินิยม คาดว่าอาจมีอยู่ราว 400 คน ก่อเหตุทำลายบ้านเรือนและร้านค้าที่เป็นของชาวมุสลิม รวมถึงพยายามทำลายสุเหร่าในเมืองต่าวดวินจี เขตมะเกว ทางตอนกลางของประเทศ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าเข้ามาระงับเหตุได้ทันและสลายการชุมนุม ส่วนทางด้านรัฐบาลพม่าออกแถลงการณ์ว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยในเหตุการณ์ครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 1 ราย และเตรียมที่จะขยายผลนำผู้ก่อเหตุคนอื่น ๆ มาดำเนินคดี กลุ่มชาวพม่าชาตินิยมที่ออกมาชุมนุมโดยอ้างว่าเนื่องจากไม่พอใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าทำลายบ้านเรือน ร้านค้า และทรัพย์สินที่เป็นของชาวมุสลิมในเมืองต่าวดวินจี โดยใช้ดาบและไม้ไผ่เป็นอาวุธ “เริ่มแรกพวกเขาใช้ก้อนหินปาใส่บ้านของชายมุสลิมรายหนึ่ง จากนั้นได้เริ่มทำลายร้านค้าอื่น ๆ บนถนนสายต่าวดวินจี-มะเกว และพยายามที่จะทำลายสุเหร่า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาระงับเหตุ พวกเขาร้องเพลงชาติพม่าด้วย เราไม่รู้ทำไมถึงมีการชุมนุมเช่นนี้ ครอบครัวของผมต้องหลบซ่อนตัวในที่ปลอดภัย ตอนนี้เราไม่กล้าอยู่ที่บ้านของเรา” ชายมุสลิมรายหนึ่งกล่าว ขณะที่ทางการพม่าอ้างว่า จะเร่งตรวจสอบวหาสาเหตุของการรวมตัวชุมนุมในลักษณะนี้ ส่วนชายที่ถูกจับอ้างว่า ที่ออกมาก่อเหตุเนื่องจากผิดหวังต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกันหรือรัฐยะไข่ ทั้งนี้ ทางการพม่าได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการก่อเหตุก่อการร้าย รวมถึงการก่อเหตุความรุนแรงเนื่องจากความไม่พอใจต่อสถานการณ์ในรัฐยะไข่ มีรายงานด้วยว่า ในเมืองเกาะสอง เขตตะนาวศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
โดยเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนตามเส้นทางเข้าสู่เมืองทั้งทางบกและทางทะเล โดยทางการพม่าอ้างว่า ภูมิประเทศของเมืองเกาะสองนั้นใกล้กับทางภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีกลุ่มก่อการร้ายหลายกลุ่มอาศัยอยู่ จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ยังคงดำเนินต่อไป โดยยูเอ็นออกมารายงานล่าสุด พบตัวเลขชาวโรฮิงญาหนีข้ามไปยังบังกลาเทศทะลุ 300,000 คนแล้ว ด้านกลุ่ม ARSA (The Arakan Rohingya Salvation Army-ARSA) กองทัพปลดปล่อยอาระกันโรฮิงญา ได้ออกมาประกาศหยุดยิงชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์สากลเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนและกำลังเผชิญกับความหิวโหย เช่นเดียวกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางการพม่าได้ออกมาร้องขอประชาชนให้หยุดเผยแพร่ข่าวลือบนข้อความทางมือถือและทางออนไลน์ที่ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา ARSA ได้ก่อเหตุโจมตี ซึ่งหากผู้ที่ยังฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกด้านหนึ่ง ทางกลุ่มชาวพุทธชาตินิยมที่เมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ได้จัดงานในหัวข้อเกี่ยวกับสถานการณ์ในรัฐยะไข่ขึ้น โดยได้เชิญพระวิระธุ แกนนำคนสำคัญของกลุ่มพระพม่าหัวรุนแรง มะบะทะ มาพูดในงาน ถึงแม้พระรูปดังกล่าวจะถูกทางการพม่าสั่งห้ามเทศนาเป็นเวลา 1 ปีก็ตาม มีรายงานว่า ภายในงานได้มีการพูดโจมตีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล NLD โดยมีการอ้างว่า มีผู้เข้ามาร่วมงานดังกล่าวมากถึง 40,000 คน ในเวลาต่อมาทางกลุ่มมะบะทะในรัฐกะเหรี่ยงยังออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลพม่าออกมาปฏิเสธอย่างเป็นทางการต่อการใช้คำเรียก โรฮิงญา นอกจากนี้ทางกลุ่มยังระบุว่า โรฮิงญาไม่ใช่หนึ่งในชาวพื้นเมืองของพม่า โดยยังเรียกร้องให้รัฐบาลต่อต้านกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา และยอมรับกลุ่มมะบะทะ ที่มา DVB/Irrawaddy แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : สำนักข่าวชายขอบ : Link>>> http://transbordernews.in.th/home/?p=17602 .
