แนะรัฐเพิ่มภาษีสุราตามปริมาณแอลกอฮอล์

 

 จากกรณีนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิตจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 12 ก.ย.นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงสร้างอัตราภาษีใน 3 รายการสินค้าที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิต ประกอบด้วย สุรา ยาสูบ และ ไพ่ โดยหลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว จะมีขั้นตอนในการลงราชกิจจานุเบกษา จากนั้นกรมสรรพสามิตจะประกาศอัตราภาษีใหม่ทุกรายการสินค้าก่อนที่กฎหมายสรรพสามิตฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้นั้น

 เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวผู้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าแห่งหนึ่ง ว่า จากมาตรการที่ภาครัฐกำลังปฏิรูปภาษีสรรพสามิต และอัตราภาษีใหม่ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย นี้ ในส่วนของภาษีสุรายังมีประเด็น และเป็นเรื่องที่น่าจะต้องทบทวนวิธีคิดในการจัดเก็บภาษีสุราใหม่ เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพของประชาชน ซึ่งวิธีคิดภาษีสุราแบบใหม่ที่เหมาะสมควรจะมีหลักวิธีคิดดังต่อไปนี้

   (1) ภาษีสุราใหม่ ต้องไม่ทำให้รัฐได้รับเงินภาษีน้อยลงกว่าเดิม

   (2) ควรใช้วิธีคิดภาษีตามปริมาณแอลกอฮอล์หรือตามดีกรี ทำให้สุราที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง มีฤทธิ์ทำลายสุขภาพรุนแรง ต้องจ่ายภาษีแพงกว่าสุราที่มีดีกรีแอลกอฮอล์น้อยกว่า  โดยสรุปคือ ให้ใช้วิธีคิดภาษีโดยคิดตามปริมาณแอลกอฮอล์หรือดีกรีสุราในอัตราภาษีสูง ที่ทำให้รัฐได้ภาษีไม่ลดลง

      แหล่งข่าวยังกล่าวต่อไปว่า จากแนวคิดข้างต้นจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระบบธุรกิจสุรา คือ

   1) ด้านผู้บริโภค จะลดปริมาณการบริโภคสุราที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง โดยจะเปลี่ยนพฤติกรรมไปบริโภคเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำที่มีราคาถูกกว่า และอาจจะหันไปบริโภคเหล้าหรือเบียร์ชนิดปลอดแอลกอฮอล์ที่ไม่ทำลายสุขภาพแทน 

  2) ด้านผู้ผลิต จะหันไปผลิตสุราที่มีคุณภาพสูง มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำ ดีกรีต่ำ ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศได้ เพราะปัจจุบันต่างประเทศมีเทรนด์นิยมและส่งเสริมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำๆมากขึ้น

  3) ด้านรัฐ จะจัดเก็บรายได้จากเงินภาษีสุรามากขึ้น ในขณะที่ปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ในสุราลดลง การทำลายสุขภาพประชาชนน้อยลง จึงน่าจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายการรักษาสุขภาพที่เกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ต่ำลง

  “รัฐบาลควรปรับโครงสร้างภาษีสุรา โดยเพิ่มภาระภาษีตามปริมาณแอลกอฮอล์ให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์เรื่องการให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพซึ่งจะทำให้สุราที่มีราคาถูกและมีแอลกอฮอล์ในระดับสูงจะต้องมีภาระภาษีที่สูงขึ้นและสินค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มสินค้าที่มีการบริโภคมากที่สุดโดยเฉพาะเหล้าขาว” แหล่งข่างกล่าว

แหล่งข่าวจาก – พญาต่อ

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *