กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงและความไม่สงบในรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศพม่า จากเหตุการณ์ที่กลุ่มติดอาวุธ ARSA (The Arakan Rohingya Salvation Army -ARSA) กองทัพปลดปล่อยอาระกันโรฮิงญา ได้ออกมาโจมตีสถานีตำรวจพม่าเมื่อวันที่ 24-25 ส.ค.ที่ผ่านมา และทางการพม่าได้ทำการกวาดล้างกลุ่ม ARSA อย่างหนัก ล่าสุดมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่แล้ว 400 คนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้มีชาวโรฮิงญาอพยพหนีข้ามไปฝั่งชายแดนบังกลาเทศ 120,000 คน อย่างไรก็ตาม ทางยูเอ็นรายงานว่า มีตัวเลขชาวโรฮิงญาที่หนีออกจากพื้นที่แล้ว 150,000 คน รวมทั้งชาวฮินดูและชาวยะไข่ที่เดินทางออกจากในพื้นที่ความขัดแย้งเช่นเดียวกันทั้งสิ้น 27,000 คน ความคืบหน้าล่าสุด ผู้นำระดับสูงของประเทศอย่างประธาธิบดีอูถิ่นจ่อ นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ กองทัพพม่า กระทรวงมหาดไทยของพม่า และกระทรวงกลาโหมและชายแดน รวมถึงฝ่ายความมั่นคงได้ร่วมหารือกันเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงและความไม่สงบที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกันเมื่อบ่ายวานนี้ (6 ก.ย.)
โดยมีการพูดคุยกันถึงประเด็นการวางมาตรรักษาความปลอดภัยและการเรียกคืนความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ การดำเนินการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากเหตุความไม่สงบ โดยจะไม่เลือกการปฏิบัติว่าเป็นกลุ่มไหน รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อก่อเหตุก็ล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นที่ถูกยกมาหารือกัน มีรายงานด้วยว่า นางซูจี นายอูมิ้นส่วย รองประธานาธิบดี และพลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า ยังได้หารือถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการก่อสร้างรั้วกั้นตามชายแดนพม่าและบังกลาเทศ มีรายงานได้มีการอนุมัติงบประมาณอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำในพื้นที่ติดชายแดนบังกลาเทศ อีกด้านหนึ่ง ทางการพม่าได้ออกมาเตือนว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะมีกลุ่มก่อการร้ายเตรียมก่อเหตุระเบิดในเมืองใหญ่ๆสำคัญของพม่า เช่น ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์และเนปีดอว์ เป็นต้น โดยในแถลงการณ์ของรัฐบาลพม่าได้เตือนให้ทุกรัฐเฝ้าระวังเหตุก่อการร้าย ซึ่งมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์ไม่สงบในรัฐอาระกัน โดยขณะนี้มีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดทั่วประเทศ โดยทางการพม่ายังได้รับรายงานว่า การก่อการร้ายในพม่ากำลังมีการเตรียมการไว้ในต่างประเทศ โดยทางการพม่าเรียกร้องให้ประชาชนแจ้งเบาะแสหากพบเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย โดยเฉพาะพฤติกรรมกักตุนแอมโมเนียมไนเทรต ซึ่งสามารถใช้ทำระเบิดได้ ทางการพม่ายังระบุอีกว่า ขณะนี้ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงมีความเชี่ยวชาญในการทำระเบิด ซึ่งสอดคล้อมกับข้อมูลของนายต่าวทุน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาลพม่าที่ระบุว่า ทางกลุ่ม ARSA มีความพยายามตั้งใจที่จะก่อเหตุในเมืองใหญ่ ๆ อย่างเมืองย่างกุ้ง เมืองเนปีดอว์ และมัณฑะเลย์เพื่อเรียกร้องความสนใจจากนานาชาติ โดยนายต่าวทุนยังระบุเกี่ยวกับกรณีชาวโรฮิงญาที่ลี้ภัยไปบังกลาเทศ หากต้องการจะเดินทางกลับพม่าจะต้องแสดงเอกสารพิสูจน์ว่าเป็นพลเมืองของพม่า และต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเคยอยู่ในพม่ากี่ปี ทางการพม่าถึงจะอนุญาติให้เดินทางกลับพม่า นอกจากนี้นายต่าวทุนยังเปิดเผยว่า รัฐบาล NLD ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ถึงแม้จะมีการเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้ประกาศภาวะฉุกเฉินหรือประกาศกฎอัยการศึกก็ตาม ขณะที่ความรุนแรงในพื้นที่ยังดำเนินต่อไป ที่มา Myanmar Times/DVB/Irrawaddy แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ SHARE.
..ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – สำนักข่าวชายขอบ : Link>>> http://transbordernews.in.th/home/?p=17568 .