เมื่อวันที่ 13 ส.ค. สำนักข่าวเอพีรายงานเหตุการณ์ช็อกท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างชาวอเมริกัน เมื่อมีรถยนต์วิ่งฝ่าฝูงชนที่ชุมนุมต่อต้านกลุ่มคลั่งชาติ ในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 26 คน คนขับรถคันดังกล่าวถูกจับกุมในเวลาต่อมา

เหตุการณ์เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดในเมืองตั้งแต่วันศุกร์ และเกิดขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายของกลุ่มชาวอเมริกันผิวขาวแนวนิยมขวาจัด หรือคลั่งชาติ มากที่สุดในรอบทศวรรษ ถึงขั้นผู้ว่าการรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน ต้องยกกำลังตำรวจปราบจลาจลมาสลายฝูงชน

กลุ่มขวาจัดประท้วงการปลดทิ้งอนุสาวรีย์นายพลโรเบิร์ต อี. ลี นายทหารฝ่ายใต้ผู้มีบทบาทในสงครามกลางเมืองอเมริกา ส่วนอีกกลุ่มมาประท้วงกลุ่มขวาจัดอีกที ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากัน

แมตต์ คอร์บอน นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย อายุ 22 ปี เล่าว่า ขบวนประท้วงต่อต้านฝ่ายขวาจัด ชุมนุมกันอย่างสงบหลายร้อยคน จู่ๆ ก็มีเสียงรถบึ่งเข้ามาไล่ชนคน

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงประณามการใช้ความรุนแรงของหลายฝ่าย ทั้งผู้ประท้วงและกลุ่มคนผิวขาวที่ปลุกระดมความเกลียดชังและอคติที่เป็นมานานแล้วในประเทศ อย่างไรก็ตามนายทรัมป์ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ตะโกนถามว่า ท่านผู้นำจะยังสนับสนุนกลุ่มคลั่งชาติที่เป็นฐานเสียงตนเองอยู่อีกหรือไม่

 ส่วนนายไมเคิล ซิกเนอร์ นายกเทศมนตรีเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ นอกจากกล่าวตำหนิพวกคลั่งชาติผิวขาวแล้ว ยังตำหนินายทรัมป์ด้วยที่หาเสียงปลุกระดมความอคติขึ้นมาตั้งแต่ปีก่อน