ผัวสุดโหด! กลับมาง้อเมีย เห็นแชทกับชายอื่น กระซวกจนดับคาที่ จะหนีตาย แต่ไม่กล้าทำ

วันที่ 4 ส.ค. พ.ต.ท.พิชิต เฉียบแหลม สารวัตรสอบสวน สภ.ขุนหาญ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุใช้อาวุธมีดแทงกันเสียชีวิต ที่บ้านพักบริเวณ หมู่ 2 บ้านด่าน ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ ผกก.สภ.ขุนหาญ และกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพของผู้หญิง สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม ทราบชื่อ นางจุฑารัตน์ ไสว อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มีร่องรอยถูกของมีคมแทงที่บริเวณท้องด้านขวา 1 แผล ท้องด้านซ้าย 1 แผล คอ 1 แผล หลังหูซ้าย 1 แผลที่บริเวณหลังศีรษะ

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุคือ นายบุญทัย สุศรี อายุ 37 ปี ชาว ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เป็นอดีตสามีของผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังออกติดตามจับกุมนายบุญทัย จนสามารถจับกุมได้ที่ทุ่งนาทางด้านทิศใต้ บ้านด่าน หมู่ 2 ต.โนนสูง ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุเพียง 200 เมตร พร้อมด้วยของกลาง อาวุธมีดปลายแหลมมีด้ามจับสีฟ้า ความยาวรวมด้าม ประมาณ 30 ซม. จำนวน 1 เล่ม สายไฟสีดำ ความยาวประมาณ 120 ซม. 2 เส้น ซุกซ่อนไว้บริเวณพุ่มไม้ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งนายบุญทัยพยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ

นายบุญทัย รับสารภาพว่า ตนเป็นคนใช้อาวุธมีดฆ่านางจุฑารัตน์ จนเสียชีวิตจริง สาเหตุที่ฆ่าเกิดจากความหึงหวงภรรยา โดยตนกับนางจุฑารัตน์ได้อยู่กินฉันท์สามีภรรยากัน จนมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 11 ปี แต่ต่อมาได้แยกกันอยู่ประมาณ 4 เดือน ตนทนคิดถึงไม่ไหว จึงได้กลับมาง้อเพื่อจะขอคืนดีที่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ตนทราบว่ามีชายอื่นมาแอบชอบพอกับภรรยาตนและเห็นภรรยานั่งเฟสบุ๊กคุยกับผู้ชาย จึงเกิดอาการหึงหวงและทะเลาะกันอย่างรุนแรง ตนจึงได้ใช้มีดปลายแหลมแทงเข้าที่ท้องข้างขวา 1 แผล ซึ่งนางจุฑารัตน์ยังไม่เสียชีวิตในทันที ได้เข้ามาต่อสู้กับตน ตนได้ใช้มีดแทงเข้าไปอีก 4 แผล ทำให้นางจุฑารัตน์เสียชีวิตคาที่

หลังก่อเหตุตนได้โยนอาวุธมีดซึ่งใช้ในการก่อเหตุทิ้งลงหลังห้องน้ำ พอนางจุฑารัตน์เสียชีวิตแล้ว ตนได้พยายามที่จะฆ่าตัวตาย โดยการใช้สายไฟสีดำ จำนวน 2 เส้น เพื่อที่จะผูกคอตายภายในห้องน้ำ แต่ไม่สำเร็จ จึงเดินไปที่สระน้ำ เพื่อกระโดดฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จอีก จึงได้ขึ้นมาจากสระน้ำ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด    https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_463100

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *